svasdssvasds

“สั่งใช้ยาแรง” เอาผิด 152 คนไทยหนีจากสุวรรณภูมิ หากไม่รายงานตัวก่อน 18.00 น.(มีคลิป)

ขีดเส้นตาย 152 ชีวิตกลับจาก 3 ประเทศหนีกักตัว หากไม่มารายงานตัว ก่อน 18.00 น. วันนี้เจอโทษหนัก จนท. อึ้ง! ทั้งหมดมีภูมิลำเนากระจาย 42 จังหวัดทั่วประเทศ

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ในการประชุมศบค.เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ปลัดกระทรวงสาธารณสุขรายงานตัวเลข 158 คนไทย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศเมื่อคืนวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งต้องรับทราบอยู่แล้วว่าต้องถูกกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดไว้

 

 

แต่เมื่อเดินทางมาถึงมีความไม่เข้าใจและมีการต่อรองไม่ขออยู่ ไม่ร่วมมือ อ้างเหตุผลว่าไม่ได้ทราบมาก่อน จะขอกลับไปอยู่บ้านพักตัวเองก่อน ซึ่งมีเพียง 6 รายที่ยินยอมกักตัวอยู่ในพื้นที่รัฐจัดไว้ให้ ในโรงแรมแห่งหนึ่งในกทม. ทั้งนี้ คำสั่งจากที่ประชุมศบค.ระบุว่า ต้องกักตัวในพื้นที่ของรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงเรียกอีก 152 คนกับมารายงานตัวทั้งหมดที่กรุงเทพฯ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

หรือถ้ามีการสัมผัสตัวญาติให้มารายงานตัวทั้งครอบครัว จะได้มีการบันทึกสอบสวนโรค หรือโทรศัพท์สอบถามที่เบอร์ 02-132-9950 และเบอร์ 063-234-4734 ส่วนคนที่เดินทางไปต่างจังหวัดให้ติดต่อที่ศูนย์ดำรงธรรม ในจังหวัดภายในเวลา 18.00 น.วันเดียวกันนี้ ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า โดยคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงขอให้กักตัวอยู่บ้านอย่างเคร่งครัด เราไม่อยากให้สูญเสียมากกว่านี้ แม้ท่านบอกว่าท่านแข็งแรงดี ส่วนกรณีคนไทยบางส่วนติดค้างในสนามบินต่างประเทศยังบินเข้าไทยไม่ได้

เนื่องจากทางสำนักงานการบินพลเรือน มีประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าประเทศไทยชั่วคราวในวันที่ 4-6 เม.ย.นั้น ผู้ที่ติดค้างสามารถติดต่อไปยังสถานทูตประเทศนั้นๆเพื่อรายงานตัวและขอความช่วยเหลือ ตอนนี้ขอเวลา 3 วันไม่ให้มีการนำเข้าอากาศยานมาที่ประเทศไทย เพื่อเตรียมมาตรการรองรับให้เป็นอย่างดี

เมื่อถามถึง กรณีที่มีการสื่อสารและโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่านายกรัฐมนตรีสั่งด่วนใช้กำลังทหารและตำรวจติดตามตัว ผู้ที่หลบหนีอยู่นั้นมีข้อเท็จจริงอย่างไร น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ถ้าจะตีความและพาดหัวข่าวในลักษณะดังกล่าวก็มีส่วนถูกต้อง แต่ไม่ได้ทั้งหมดยอมรับว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการจริง

ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ในการประชุมเร่งด่วน ที่มีทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และพลเรือนมาประชุมเร่งด่วน เพื่อสร้างมาตรการดังกล่าวให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนว่ารัฐเข้มแข็งและเอาจริง จะไม่ยอมให้มีการประเมินกฎระเบียบที่มีอยู่ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ถูกสั่งการโดยวันเดียวกันนี้เลขาสมช.เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามให้ได้ทุกคนและถ้าไม่มาถือว่ามีความผิด

“เราไม่อยากจะลงโทษกับพวกท่านเราเป็นห่วงเป็นใหญ่ทุกคนต่างหากถึงได้ตามทุกคนมาเป็นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานด้านความมั่นคงร่วมมือผนึกกำลังกันทำงานและทุกคนไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ยังทำทุกอย่างเพื่อประเทศเพราะตัวเลขทั้งหลายที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากกลุ่มคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งสิ้น”

ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้โดยสารชาวไทยทั้ง 152 คน ที่เดินทางถึงภูมิลำเนา ได้ทยอยติดต่อรายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรมในหลายจังหวัดแล้ว ขณะที่หลายพื้นที่ ตำรวจส่งกำลังเข้าควบคุมตัวถึงบ้านพัก โดยไม่รอให้เข้ารายงานตัว พร้อมคัดกรองบุคคลใกล้ชิด ให้กักตัวและสังเกตอาการแล้ว

related