พินิจกันชัดๆ! ตัวเเทน BA กับประชาพิจารณ์สนามบินพังงา
ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันที่ 11 ก.ค.60 สปริงนิวส์และหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ สื่อในเครือสปริงกรุ๊ป ได้รับการเปิดเผยคลิปความยาว 23 นาที เป็นการทำประชาพิจารณ์เพื่อขอสร้างสนามบินพังงา เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2559 ที่ศาลาประชาคมกลางหมู่บ้านท่าดินแดง หมู่ 4 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยการทำประชาพิจารณ์วันดังกล่าว นำโดย นายวรงค์ ศรีหรัญ ปลัดเทศบาลตำบลลำแก่น ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลลำแก่น พร้อมด้วยตัวแทนจาก บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) นำโดย นายอุสุมา อับดุลเลาะห์
โดยนายอุสุมา แนะนำตัวกับชาวบ้านว่า ตนเป็นอดีตข้าราชการป่าไม้เขตปัตตานี เมื่อเกษียณราชการแล้วคณะกรรมการบางกอกแอร์เวย์ส จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีความสนิทสนมกันชักชวนให้มาทำงานที่บางกอกแอร์เวย์ส เพื่อมาดำเนินการการจะสร้างสนามบินพังงา
“วันนี้เป็นการสำรวจพื้นที่ ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ เครื่องบินจะขึ้นลงได้หรือไม่ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาก็เสนอที่มาหลายจุด ทั้งพื้นที่สาธารณะ อำเภอตะกั่วทุ่ง แต่ภูมิอากาศและภูมิประเทศไม่เหมาะกับการทำสนามบิน ส่วนเขาหลักก็ติดภูเขา แต่มาเจอที่นี่ (ป่าสงวนแห่งชาติคลองทุ่งมะพร้าว) เป็นที่ราบ ข้างๆไม่มีภูเขา คิดว่าตรงนี้เหมาะกับการสร้างสนามบิน จึงสำรวจอากาศพบว่าอากศดีมาก มีความหนาแน่นของหน้าดินอย่างมาก เป็นดินทรายเจาะลึก 20 -30 เมตรยังเป็นทราย จึงลงมติว่าจะสร้างตรงนี้”
คลิปวิดีโอดังกล่าว นายอุสุมา กล่าวอีกว่า สนามบินที่จะสร้างขนาดใหญ่กว่าสนามบินภูเก็ต ที่เครื่องบินขนาด 380 สามารถลงได้เลย ขนาดรันเวย์ยาว 3 กิโลเมตร กว้าง 500 เมตร เป็นสนามบินระหว่างประเทศและในประเทศ ซึ่งบางกอกแอร์เวย์สมีเครื่องบินภายในบริษัท 30 ลำ
"ถ้าสร้างตรงนี้ได้จะเพิ่มเครื่องบินอีก 7 ลำ รวมเป็น 37 ลำ ตรงนี้คือนโยบายของบริษัท แต่รายละเอียดมากกว่านี้ตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะตอนนี้มาดูว่าชาวบ้านจะสนับสนุนหรือคัดค้านหรือไม่ เพราะติดปัญหาเป็นเขตป่าสงวน ต่างจากที่ผ่านมาที่มีการสร้างในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ อาทิ สุโขทัย ตราด เกาะสมุย ไม่มีปัญหากับชาวบ้าน ชาวบ้านต้องการขายที่ดินเท่าไรก็ซื้อในราคานั้น"
นายอุสุมา ยืนยันว่า ถ้าชาวบ้านบอกไม่สร้างก็หมดสิทธิ์ จึงต้องถามชาวบ้าน หากอนุญาตก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ส่วนการชดเชย ตัวแทนบางกอกแอร์เวย์ส ชี้แจงว่า นโยบายชัดเจนคือชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่าง 3 ส่วนคือ ที่ดินที่มีสวนปาล์ม-ยางพารา, ที่ดินเปล่าและที่ดินที่มีบ้านอยู่ บริษัทจะชดใช้ทั้งหมด โดยที่ดินที่มีสวนปาล์ม-ยางพารา ชาวบ้านต้องตกลงกับบริษัทว่าจะขายราคาเท่าไร แต่ต้องตกลงให้เหมือนกันทั้งหมด เช่น ชาวบ้านตกลงขาย 2 แสนบาท/ไร่ ก็ต้องราคา 2 แสนบาทเหมือนกันทั้งหมด และการชดใช้จะยึดตามหลักวิชาการ อายุ ความสูง เท่าไร ผลผลิตต่อปีกี่ตันเท่าไร จะชดใช้ทั้งหมดเป็นเวลา 30 ปี
ตัวแทนบางกอกแอร์เวย์ส ชี้แจงว่า ส่วนที่ดินเปล่านั้น ชาวบ้านต้องตกลงว่าจะขายให้ราคาเท่าใด แต่ต้องตกลงกันเองก่อน จากนั้นนำมาเสนอกับบริษัท หากได้รับอนุญาตก่อสร้างจะมีการทำสัญญาเพื่อชดใช้ทันที เพราะเรื่องนี้ต้องทำเร่งด่วน ภายใน 2 ปี "ท่านจะได้ใช้สนามบินหลังจากได้รับอนุญาตเครื่องบินขึ้นลงได้เลย"
ส่วนชาวบ้านที่มีบ้าน เราจะชดใช้ด้วยการซื้อในราคาปัจจุบัน สมมติเคยซื้อ 1 แสนบาท แต่ตอนนี้ราคา 5 แสนบาท ก็ซื้อราคา 5 แสนบาท และถ้าขายบ้านอยากอยู่แถวนี้ ก็จะซื้อที่ดินและสร้างบ้านให้อยู่ด้วยในราคาบริษัท
พร้อมกับมีข้อเสนอว่า หากสร้างสนามบิน ในส่วนของพนักงาน เจ้าหน้าที่ของสายการบิน จะรับคนในท้องที่เป็นอันดับแรก รับกระทั่งคนไม่มีการศึกษาถึงระดับปริญญา
ตัวแทนบางกอกแอร์เวย์ส ชี้แจงว่า เป็นได้ทั้งภารโรง ทำร้านค้า หากจะเอาร้านค้าก็จะให้สิทธิ์ประมูลก่อนอันดับแรก
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการทำประชาพิจารณ์ครั้งนี้ ปรากฏว่าไม่มีชาวบ้านรายใดยกมือสนับสนุนการสร้างสนามบินในพื้นที่ป่าสงวน แต่สภาเทศบาลตำบลลำแก่นกลับมีมติให้สร้างได้ จึงเสนอเรื่องไปยังจังหวัด พังงาตามที่ปรากฏในข้อมูล....
[embed]https://youtu.be/VebFpwUS-5c[/embed]
