svasdssvasds

บสส.ชี้คนไทยวัย30-35ปี  เข้าคอร์ส "คลินิกเเก้หนี้" มากสุด 

บสส.ชี้คนไทยวัย30-35ปี  เข้าคอร์ส "คลินิกเเก้หนี้" มากสุด 

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันที่ 26 ก.ค.60--นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด(บสส.) ในฐานะผู้รับบริหารหนี้โครงการคลินิกแก้หนี้ ยอมรับว่า มาตรการกำกับสินเชื่อบุคคล และ บัตรเครดิตใหม่ ส่งผลกระทบกับการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อสถาบันการเงิน แต่จะส่งผลดีช่วยป้องกันปัญหาหนี้เอ็นพีแอล เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันพบว่าคนเป็นหนี้บัตรเครดิตมีอายุน้อยลง ซึ่งเห็นได้จากคนที่เป็นหนี้เสียมาติดต่อขอเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ พบว่ามีอายุในกลุ่ม 30-35 ปีมากสุด  

บสส.ชี้คนไทยวัย30-35ปี  เข้าคอร์ส "คลินิกเเก้หนี้" มากสุด 

ส่วนความคืบหน้า การช่วยเหลือกลุ่มคนที่มีหนี้ค้างชำระบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเกิน 3 เดือนก่อนวันที่ 1 พฤษภาคมปีนี้ในโครงการคลินิกแก้หนี้ที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า มีคนติดต่อเข้ามาจำนวนมากถึง 18,000 ราย แต่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติการช่วยเหลือเพียงร้อยละ 40 และเมื่อมีการเจรจาลงลึกถึงความสามารถในการชำระหนี้แล้วขณะนี้มียอดคนเข้าโครงการแล้วเกือบ 300 ราย วงเงินหนี้เอ็นพีแอลรวม 400-600 ล้านบาท ส่วนเป้าปีนี้คาดว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ได้ 3,000 ราย โดยเฉลี่ยคนที่มีหนี้ค้างชำระต่อรายอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาท  

บสส.ชี้คนไทยวัย30-35ปี  เข้าคอร์ส "คลินิกเเก้หนี้" มากสุด 

นายนิยต ยอมรับว่าหนี้เอ็นพีแอล ของสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ต้องเร่งหามาตรการป้องกัน ส่วนการออกเงื่อนไขใหม่โครงการคลินิกแก้หนี้นั้น ยังไม่ได้มีการพิจารณาเพิ่มเติมในขณะนี้ ขณะที่มาตรการแก้หนี้เอ็นพีแอลในกลุ่มนอนแบงก์ คาดว่าในปีหนี้จะออกกฎเกณฑ์ช่วยเหลือได้ หลังจากได้มีการแก้ไขกฎหมายบริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อครอบคลุมการบริหารหนี้ของกลุ่มนอนแบงก์แล้ว

related