ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
ฟังดูแปลกๆ เพราะใครๆ ก็อยากมีความรู้สึกดีๆ ตลอดเวลา ความรู้สึกหวาดกลัวหรือกังวลมีประโยชน์ตรงไหนกัน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกด้านบวกไม่ได้ทำให้เรามีความสุขที่สุดในทุกวันเสมอไป บางครั้ง ความรู้สึกด้านลบก็สามารถสร้างความสุขให้กับเราได้เช่นกัน
ความรู้สึกด้านลบเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกาย เมื่อมีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้น หรือมีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องได้รับการดูแล การที่คุณรับฟังสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา จะทำให้คุณสามารถเข้าใจสิ่งที่ร่างกายต้องการได้อย่างลึกซึ้ง แต่โดยทั่วไป เมื่อความรู้สึกด้านลบเริ่มปรากฏขึ้น คนมักใช้กลไกตอบสนองต่อความรู้สึกด้านลบนี้ ด้วยการไม่สนใจและหลีกเลี่ยง การทำเช่นนี้เป็นเพียงการทำให้ความรู้สึกด้านลบนั้นสะสมมากขึ้น และทำให้คุณรู้สึกแย่ลง
นักวิจัยสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างความรู้สึกด้านลบกับความสำเร็จของคนในวัยผู้ใหญ่ และพบว่าแท้จริงแล้ว การผ่านประสบการณ์ของอารมณ์ทางด้านลบในหลายแง่มุม กลับทำให้เราได้เรียนรู้และเติบโต การรับรู้ การยอมรับ และการอ้าแขนรับแรงสะท้อนเชิงลบที่อยู่ภายใน กลับเป็นผลกระทบเชิงบวกของความสุขในชีวิต ทั้งทางจิตใจและอารมณ์
การเผชิญหน้ากับความกลัว
ในเชิงวิวัฒนาการ ร่างกายของเราถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเราให้รอดชีวิตผ่านความกลัว ถ้าเราไม่รู้สึกกลัว เราอาจตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายได้ตลอดเวลา ความกลัวมีหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ความกลัวที่มีแง่มุมดีๆจะช่วยทำให้เราได้รับความปลอดภัยหรือแม้แต่เป็นเครื่องกระตุ้นจิตใจ ความกลัวถือเป็นความรู้สึกที่ช่วยให้ชีวิตรอดจากอันตรายรอบตัว
ชีวิตของเรามักเกิดสถานการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจได้เสมอ เมื่อเราสำรวจความรู้สึกของเราเอง เราจะพบวิธีตอบสนองที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องตัวเอง หากคุณพบว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวมากที่สุดสิ่งหนึ่งในชีวิต ปฏิกิริยาแรกของคุณอาจเป็นการหมุนตัวกลับ และวิ่งโดยไม่หันหลังไปมอง อย่างไรก็ตาม หากเรามีความเข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวของเรา เราจะสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆในชีวิตได้
ความรู้สึกถูกคุกคาม อาจทำให้คุณอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง และมักจะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ความกลัวทำให้ความรู้สึกและการระแวดระวังของเราตื่นตัวสูงขึ้น ทำให้เราพัฒนาวิธีแก้ปัญหาที่เฉียบคม ดังนั้น จึงควรนิ่งฟังร่างกายของคุณและตอบสนองตามนั้น
ความหงุดหงิดใจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกหงุดหงิดใจ จงใช้เวลาคิดทบทวน และถามตัวเองว่า ทำไมฉันจึงโกรธ ความหงุดหงิดของฉันมีสาเหตุมาจากอะไร
เมื่อสำรวจความรู้สึกนี้ คุณจะสามารถเข้าใจว่า คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในชีวิต ไม่มีใครเลือกที่จะรู้สึกโกรธหรือหงุดหงิดด้วยตัวเอง เมื่อคุณรู้สาเหตุ คุณจะสามารถยอมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หรือกำจัดมันออกไปจากชีวิต บางคนถึงกับเปลี่ยนความหงุดหงิดเป็นความรัก โดยรู้จักใช้กระบวนการทางความคิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ
ความหงุดหงิดช่วยให้เราได้ฝึกความอดทนและอดกลั้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของพัฒนาการด้านจิตใจ การผ่านประสบการณ์ความหงุดหงิดใจ ทำให้เรารู้จักที่จะพักผ่อนจิตใจและผ่อนลมหายใจ การเรียนรู้ความรู้สึกด้านลบและจัดการตามความเหมาะสม ทำให้เกิดการรู้จักและเข้าใจตัวเอง (Self-awareness)
ความวิตกกังวลทำให้เกิดสติ
ความวิตกกังวลเป็นการที่ร่างกายตอบสนองโดยธรรมชาติต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชีวิต และมักจะมีสาเหตุมาจากการคิดมากจนเกินไป ความวิตกกังวลนี้อาจทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุข แต่มันก็อาจเกิดประโยชน์ได้เช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกกระวนกระวายใจ จงพยายามเพ่งความคิดลงไปที่ปัจจุบัน เช่นฝึกรู้ลมหายใจเข้าออก การทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถสำรวจความรู้สึกของคุณได้ โดยไม่ใช้อารมณ์ลงไปด่วนตัดสิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับความรู้สึกที่เป็นด้านลบ
การทำสมาธิแบบมีสติ เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการบริหารความวิตกกังวล จงหาเวลาเพียงชั่วครู่จากชีวิตที่วุ่นวาย เพื่อทำสมาธิแบบง่ายๆ เช่นการรู้ลมหายใจ คุณจะพบว่าการทำเช่นนี้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพจิตของคุณ
ความวิตกกังวลกระตุ้นให้เราสำรวจธรรมชาติของสิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจ เป็นสิ่งที่ทำให้คุณต้องคิดว่า คุณจะวิ่งหนีจากสถานการณ์ที่กำลังถูกคุกคามอยู่ หรือจะสู้กับมันดี
ในบางกรณี ความวิตกกังวลอาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้นก็ได้ มีการศึกษาที่พบว่า นักกีฬาที่รู้สึกวิตกกังวลก่อนแข่ง กลับสามารถแข่งได้ผลดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น จงรู้จักปรับความวิตกกังวลภายในใจคุณให้เป็นการพัฒนาตัวเอง
ความรู้สึกผิดทำให้เกิดการเยียวยา
ความรู้สึกผิดเป็นวิธีที่ร่างกายแสดงให้เห็นว่า เรากำลังทำบางสิ่งบางอย่างผิดไป เรารู้สึกถึงความผิดพลาดผ่านความรู้สึกผิดอย่างรุนแรงไหลเวียนทั่วร่างกาย ถึงแม้ว่าคุณอาจรู้สึกไม่สบายใจเอาเลย แต่ความรู้สึกด้านลบนี้ ก็ทำให้เราได้เรียนรู้จากอดีต และช่วยให้เราทำสิ่งที่ถูกต้องได้ในอนาคต
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบที่สุด เราทุกคนล้วนทำผิดมาก่อน แต่สิ่งสำคัญคือ การเรียนรู้จากความผิดเหล่านั้น และพัฒนาไปสู่ตัวตนที่ดีขึ้น
ความรู้สึกผิดช่วยเยียวยาจิตใจภายในด้วยการยอมรับกับตัวเอง ว่าเราทำผิดไปแล้ว และจะไม่ตัดสินใจผิดแบบเดิมซ้ำอีก จงยอมรับว่าทำผิดไปแล้ว และให้อภัยตัวเอง จงรู้จักปรับเปลี่ยนความรู้สึกผิดไปเป็นการให้อภัย แล้วคุณจะรู้สึกมีความสุขมากขึ้น
การผ่านประสบการณ์ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกด้านลบ ถือเป็นประโยชน์กับเรา ดังนั้น จงอ้าแขนรับความรู้สึกเหล่านี้ อย่าไปมุ่งกำจัดมัน แต่จงรู้จักหาวิธีปรับเปลี่ยนความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม