กรมการแพทย์เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ อาหารเสริมและวิตามินที่อวดอ้างว่าทำให้สุขภาพตาและการมองเห็นดีขึ้น เพราะไม่มีอาหารเสริมสรรพคุณอย่างที่โฆษณา แนะดูแลสุขภาพตาหากมีอาการผิดปกติ และควรพบจักษุแพทย์
แพทย์หญิงสายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) กล่าวว่า งานวิจัยขนาดใหญ่ในอเมริกาซึ่งสนับสนุนโดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐ ชื่อ Age-Related Eye Disease Study(AREDS.2001-2006) ได้ทำการทดลองโดยให้ผู้สูงอายุทานวิตามินรวม(วิตามินซี 500 mg, วิตามินอี 400 หน่วย IU, เบต้าแคโรทีน 50 mg, สังกะสี 80 mg) ทุกวันติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี ผลคือ วิตามินรวมไม่ช่วยชะลอหรือลดต้อกระจกที่มีอยู่เลย แต่ช่วยลดความเสี่ยงการลุกลามของโรคจุดรับภาพเสื่อมได้ 25% เฉพาะในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีผลในการชะลอหรือป้องกันต้อกระจก
ข้อมูลทางการแพทย์ในปัจจุบันพบว่า วิตามินหรือสารอาหารบางชนิดอาจจะมีประโยชน์ในการป้องกัน บำรุงสุขภาพ เฉพาะบางภาวะ บางโรคเท่านั้น แต่ไม่ใช่ยาวิเศษที่สามารถรักษาโรคตาได้ ฉะนั้นผู้สูงอายุที่เผชิญกับโรคตาควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้วิตามิน อาหารเสริมเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม วิตามินหรืออาหารเสริมปัจจุบันที่จำหน่ายมักจะมีคำว่า "อาจจะ" กำกับอยู่ด้วย เช่น อาจช่วยชะลอต้อกระจก, อาจมีส่วนช่วยการมองเห็น, อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพตา เป็นต้น ดังนั้น ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือยืนยันว่า การทานวิตามินใดใด ช่วยทำให้การมองเห็นดีขึ้นได้ ฉะนั้นหากมีอาการผิดปกติทางตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์ทันที
วิธีการดูแลดวงตาที่ถูกต้อง