ประสบการณ์ สนามบิน ครั้งแรกหลังปลดล็อกยุคโควิด First Flight in COVID ERA
ได้ไปเยือน สนามบิน เป็นครั้งแรก หลังรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการโควิด 19 หลังจากที่ ก่อนหน้านี้ ทริปที่วางแผนไว้ล่มแล้วล่มอีกไม่เป็นท่าเนื่องจากสถานการณ์ Covid-19
ผ่านช่วงเวลาในการทำงานที่บ้านอย่างยาวนาน ระหว่างที่ไทยประกาศล็อกดาวน์ แม้กระทั่งการเดินทางข้ามจังหวัดกลายเป็นสิ่งต้องห้าม เพื่อนหลายคนแชร์รูปเก่าๆ ที่เคยไปเที่ยว หรือแม้แต่รูปที่ สนามบิน หลายคนบ่นติดตลกว่าไปไกลได้แค่สุดแค่ปากซอย หรือกระทั่งมีเที่ยวบินทิพย์เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ทำให้เราได้เห็นความโหยหาการออกไปข้างนอก อยากออกท่องเที่ยวของผู้คนเยอะขึ้นมาก รวมถึงตัวเราเช่นกัน
หลังอ่านพบประกาศจากสายการบินในประเทศและบางส่วนที่บินไปต่างประเทศในเขตใกล้ๆ กัน เปิดให้บริการตามปกติแล้ว อัดอั้นมานาน กดจองตั๋วแล้วไปเชียงรายกัน!
บรรยากาศภายใน สนามบิน ดอนเมือง
เงียบและรถน้อยมาก ผู้คนบางตา แต่ก็ยังมีเดินขวักไขว่อยู่บ้าง และยังมีชาวต่างชาติบางส่วนที่มารอขึ้นเครื่องเช่นกัน และประตูทางเข้าสำหรับรอเช็คอินของสนามบินดอนเมืองเปิดแค่ 2 ประตูเท่านั้น เพื่อคัดกรองในอันดับแรก คือการเดินผ่านกล้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าในเขตเช็คอิน ระหว่างที่เข้าแถวรอเช็คอิน จะมีเจ้าหน้าที่ของสายการบินนั้นๆ ใส่หน้ากากอนามัยและ Face Shild พร้อมกับสวมถุงมือ คอยตรวจตราผู้โดยสาร และเตือนให้เราต่อแถวแบบเว้นระยะห่างตลอดเวลาที่เราเข้าแถว อย่างเคร่งครัด และที่นั่งทุกจุดในสนามบิน ยังมีสัญลักษณ์เตือนให้ผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการ ยังคงต้องเว้นระยะห่างกันอยู่
ขั้นตอนที่เพิ่มขึ้น
นอกจากการวัดอุณหภูมิจากด่านแรกคือทางเข้า สนามบิน หลังจากลงรถแล้ว ด่านที่สอง ทางเข้าบริเวณตรวจสัมภาระ เจ้าหน้าที่จะตรวจวัดอุณหภูมิอีกรอบก่อนเข้าใน Gate และระหว่างที่เรานั่งรอขึ้นเครื่อง จะมีประกาศให้เข้าทีละแถวตามหมายเลขบนตั๋วโดยสาร และต้องระมัดระวังการเว้นระยะห่างต่อกันอยู่เสมอ และมีด่านที่สาม ตรวจวัดอุณหภูมิอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นเครื่องบิน
ส่วนบนเครื่อง ยังมีช่องใส่สัมภาระเปิดตามปกติ แต่จะไม่มีบริการเครื่องดื่มและอาหาร เราและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน งดการพูดคุยให้มากที่สุด
เมื่อเครื่องลงจอดเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะเรียกให้ผู้โดยสารลงทีละแถว โดยเว้นระยะห่างกัน ใช้เวลาคนละ 30 วินาที เพื่อความรวดเร็ว และเจ้าหน้าที่คอยย้ำเตือนเรื่องการเว้นระยะห่างให้กับผู้โดยสารอยู่เสมอ
อะไรเปลี่ยนไปบ้าง
สำหรับเรา คิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แค่ขั้นตอนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เจลแอลกอฮอล์ที่มีกระจายอยู่ทั่วสนามบินสำหรับผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการ การวัดอุณหภูมิในทุกจุดที่สำคัญและการย้ำเตือนหลายๆ รอบของสายการบิน ว่าเมื่อเราอยู่บนเครื่องบิน เราจะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา รักษาระยะห่างเสมอ ซึ่งเรามองว่า เป็นเรื่องที่ดีเพราะการเตือนทุกๆ ครั้ง นั่นหมายถึง ความหวังดี ความห่วงใยต่อผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทุกคน
แต่ที่น่าสังเกตคือ แม้จะมีการรักษาระยะห่างในบริเวณสนามบิน แต่เมื่อขึ้นเครื่อง ก็ยังคงนั่งตามปกติ และไม่มีการเว้นที่นั่งแต่อย่างใด และเที่ยวบินนี้ เต็มทุกที่นั่ง อาจเพราะอัดอั้นกับการท่องเที่ยวมานานกันจริงๆ นั่นแหละ
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องปกป้องตนเอง และป้องกันตนเองจากคนอื่นเช่นกัน ด้วยการล้างมือให้สะอาดอย่างถูกวิธีและสวมหน้ากากตลอดเวลา
สนามบินไต้หวัน เปิดทัวร์ "แสร้งว่าจะขึ้นเครื่อง" ให้คนที่คิดถึงการเดินทาง
สนามบินไต้หวัน ไทเปซงซาน เปิดทัวร์ให้คนที่คิดถึงการเดินทางได้แสร้งว่าจะต้องเช็คอิน ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และขึ้นเครื่องที่ประตูทางออก เหมือนจริง
