svasdssvasds

ดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ โดย โหรฟันธง หมอลักษณ์ เรขานิเทศ

ดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ โดย โหรฟันธง หมอลักษณ์ เรขานิเทศ

หมอลักษณ์ กล่าวถึงดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อร่างสร้างบ้านเมืองมาด้วยระบบกษัตริย์ มีพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ เป็นรากแก้ว หากคิดเปลี่ยนแปลงจะมีอันเป็นไป

หมอลักษณ์ กล่าวถึงดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อร่างสร้างบ้านแปลงเมือง มาด้วยระบบกษัตริย์ และ มีพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ เป็นรากแก้วของแผ่นดิน “ดาวอาทิตย์(๑) นั้นหนาคือกษัตรา เป็นมหาอุจจ์กุม นครามหานคร” สถาบันพระมหากษัตริย์จะคู่แผ่นดินกรุงรัตนโกสินทร์ไปชั่วนิรันกาล ตามดวงชะตาเมืองที่สร้างมา ใครคิดเปลี่ยนแปลงทำลาย จะมีอันเป็นไป วิบัติ ในทุกสถาน

หมอ ลักษณ์ เรขานิเทศ กล่าวว่า พระราชาเป็นศรีสง่าแห่งแผ่นดิน แผ่นดินนี้เกิดจากผู้นำ ผู้กล้าคือพระราชา เปี่ยมด้วยพระบารมี เป็นผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐสืบมา ใครจะจาบจ้วงล่วงเกิน มิได้ เสมือนพ่อแม่ ไม่มีท่านไม่มีเรา คนสมัยนี้ ลืมนึก นึกเฉพาะตน ในปัจจุบันว่า สุขสบาย อิสระเสรี ตามใจ แต่ลืมนึกไปว่า ถ้าไม่มีอดีตที่เป็นมาแบบนี้ คงไม่มีปัจจุบัน เสมือนไม่มีพ่อแม่ ก็ไม่มีเรา พวกปีกกล้าขาเเข็ง คิดไม่ได้ นึกไม่ได้ สุดท้ายจะพัง

ดาวพฤหัสบดี (๕) พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ ที่อบรมขัดเกลาให้คนในบ้านนี้เมืองนี้เป็นคนดี รู้บาปบุญคุณโทษ โดยมีอิสระในการนับถือศาสนา ปัจจุบันก็มีคนไม่มีศาสนา จึงเป็นคนห่ามๆ เกรียน ไม่มีสัมมาคารวะ ขาดความสำรวมระวัง กาย วาจาใจ สังคมเสื่อม

ประเทศไทยมีกรุงรัตนโกสินทร์มาได้สืบมาด้วยเหตุหลักการ ดวงชะตา ประเพณี วัฒนธรรม ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเกิดเป็นชาติ ชาติไทยที่ไม่สามารถเอารูปแบบการบริหารปกครองของชาติใดในโลกมาใช้ เพียงเพื่อสนองอิสระเสรีในตน จนคิดจะทำลายรากแก้วของแผ่นดิน ใครคิด พูด กระทำ ในทางทำลาย ไม่มีทางชนะ ไม่มีทางทำได้ มีแต่ทำลายตนเอง อันตรายยิ่งนัก แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ บันทึกโหรเพื่อเตือนสติ ให้ข้อมูล คณะศิษย์ สายบุญ สาธุชนที่ติดตาม

หมอลักษณ์

นอกจากนั้น หมอลักษณ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คนทุกคนย่อมมี ความชั่วหยาบ ความดี อยู่ในกายตน คนผิดกฏหมายและศีลธรรม ไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว เพราะ อาจารย์ยึดถือมาตลอดชีวิต ต้องมีหลัก ไม่ผิดกฏหมายอันชอบธรรม และยึดมั่นในศีลแห่งฆราวาส

หมอลักษณ์อธิบายว่า ทุกๆคนต้องเข้าใจ ในเรื่องนี้ด้วย ว่า การที่คิดว่า ผิดศีลคืออะไร เพราะ ศีลมีระดับความละเอียด และศีลฆราวาสผู้ไม่ใช่พระภิกษุสงฆ์ มีข้อยืดหยุ่นและอนุโลมอยู่มาก ศึกษาให้ทะลุก่อนตีความ เรื่องการผิดไม่ผิดในศีลนะ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นรากเหง้าในวิถีของสังคมนี้ คือ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พระมหากษัตริย์ โดยสถานะ ตำแหน่ง ที่ได้เป็น ต้องมีความเกี่ยวข้องกับเราทุกๆ คนมาแต่อดีต ตามหลักบุพเพกตบุญตา เป็นทั้งบุญและกรรม ประเพณี วัฒนธรรม ในประเทศนี้ มีมาหลายร้อยปี ทำให้เราต้องมีท่าที อ่อนน้อม ถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ การชี้มูลกล่าวโทษบุคคลที่เป็นพ่อแม่ ครู อาจารย์ สถาบันชั้นสูง ทำไม่ได้ ควรละเว้น อุเบกขา อาจารย์ก็กระทำแบบนี้ ยึดถือแบบนี้มาตลอดจนวัย จะ 50 ปี แต่ไม่ใช่คิดว่าไม่มีความผิด ความชั่วเลย นั่นเป็นเรื่องของท่าน บิดามาดา ครู อาจารย์ พระอาจารย์ ท่านผู้สูงศักดิ์ที่ท่านต้องรับผล และท่านต้องปรับแก้หรือดำรงตนที่ต้องเรียนรู้เอง มิฉะนั้นท่านต้องได้รับผลแห่ง กรรม คือ การกระทำ เช่นกัน ไม่ชาตินี้ก็ชาติต่อๆ ไป

 

"อาจารย์ยืนยัน การเป็นประชาชน ในประเทศนี้ ในระบอบประชาธิปไตยแบบของไทย โดยมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขของแผ่นดิน ไม่นิยม ศรัทธาในระบอบเผด็จการ หากจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะ ประเทศต้องเปลี่ยนแปลง แต่ต้องยึดหลักไม่จาบจ้วงล่วงเกินสถาบัน ไม่ว่ากรณีใดใด ส่วนจะให้มีการยุบสภา แก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชอบธรรม ยุติธรรม แบบประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และให้มีการเลือกตั้งใหม่ เอาเลยครับ ทำให้ถูกต้องตามแนวทางนี้ เต็มที่ ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึก ได้รับผลกระทบชัดเจน ในยามนี้ต้องการการเปลี่ยนแปลงชัดเจนอยู่แล้ว แต่สถาบันจะไปล่วงเกินเหมือนในการขึ้นเวที ทำคลิป สารพัด ในทวิตเตอร์ สื่อโซเชี่ยล นั่นอันตราย พังทลาย หลายๆคนคนส่วนใหญ่ เห็นแล้ว คงไม่สบายใจ ตามดวงชะตาเมืองยามนี้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง ชัดเจนอยู่แล้วครับ" หมอลักษณ์กล่าว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง