Mother Gamer เกมเมอร์เกมแม่ สมรภูมิเกมระหว่างคุณรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่

ต้องออกตัวก่อนว่า ผู้เขียนไม่ใช่คนที่เล่นเกม ไม่ได้เข้าถึงวงการ E-Sport และไม่เคยเล่นเกม ROV ด้วยซ้ำ แต่ก็ตัดสินใจอยู่นานกว่าจะดูดีไหม พอคิดไปคิดมา มันคงไม่น่าจะเป็นหนังที่มีแต่เกมหรอก ต้องมีประเด็นอื่นบ้าง มิฉะนั้นมันจะเป็นหนังเฉพาะกลุ่มเกินไป 

เนื้อเรื่องคือ ครูเบญ (อ้อม พิยะดา) ผู้เป็นแม่ที่จริงจังกับชีวิต ทำทุกอย่างเป็นแบบแผนทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ซึ่งครูเบญเป็นแม่ของ โอม (ตน ต้นหน) ที่ค่อนข้างเจ้ากี้เจ้าการกับโอม อยากให้โอมเรียนเก่ง เรียนดี แต่อยู่มาวันหนึ่ง ครูเบญจับได้ว่า โอมนั้นติดเกมมาก และโอมก็เป็นนักสตรีมเกมที่รู้จักกันในวงการ E- Sport ซึ่งครูเบญก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย ทำให้ครูเบญรู้สึกหนักใจ และเป็นห่วงลูก และในขณะนั้นครูเบญก็เหมือนกับคนรุ่นเก่าคนอื่นๆ ที่ยังมองว่า เด็กติดเกม ติดมือถือ เป็นเรื่องที่ไม่ดี

ครูเบญจึงหาทุกหนทางเพื่อให้โอมออกจากวงการเกม แล้วกลับไปโฟกัสเรื่องเรียนอย่างเดียวจะดีกว่า ครูเบญจึงใช้วิธีหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง โดยการฟอร์มทีม E-Sport ขึ้นมาที่มีชื่อว่า "OHMGAGA" เพื่อสู้กับทีมของ "Higher" ที่โอม เป็นสมาชิกในทีมนี้อยู่ และเป็นตัวเต็งของทีมอย่างมาก นี่เป็นการเอาชนะเกมของคนในครอบครัวด้วยเกมนี่แหละ

หลังจากดูแล้วพบว่า ค่อนข้างชอบคอนเซปของหนังเรื่องนี้ ซึ่งผู้กำกับหนังเรื่องนี้ เคยผ่านการกำกับหนังอย่าง App War แอปชนแอป มาก่อน ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันของบริษัทสตาร์ทอัพที่ทำแอปพลิเคชั่น มาแข่งขันเพื่อขอทุนกันมาแล้ว แต่หนังกลับทำรายได้ออกมาไม่ดีนัก

นี่แสดงให้เห็นว่า ผู้กำกับค่อนข้างสนใจเรื่องวิวัฒนาการของเทคโนโลยี อาชีพใหม่ๆ รวมถึงความก้าวหน้าของมนุษยชาติ แล้วเอามาทำเป็นหนัง ซึ่งทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว แม้ผู้เขียนเองจะไม่รู้จักเกม ROV ตัวละครในเกม และวิธีการเล่นเลยก็ตาม แต่สามารถเข้าใจในตัวหนังได้พอสมควร และตีแผ่สังคมได้ดีเลยทีเดียว

สำหรับตัวละครและบทบาทของ อ้อม พิยะดา ค่อนข้างเข้าใจง่าย เข้าถึง และเห็นถึงความปรับตัวของครูเบญ ที่ถึงแม้ว่าภายนอก อยากจะเอาชนะลูกด้วยเกม แต่ภายในใจครูเบญเอง ก็อยากจะเข้าใจ เข้าถึงชีวิตของคนรุ่นใหม่อยู่เหมือนกันว่า ปัจจุบันนี้ โลกของพวกเขามันไปไกลถึงไหนแล้ว เช่น ประโยคที่ครูเบญพูดว่า "เล่นเกมมันจะได้เงินสักแค่ไหนเชียว" แสดงให้เห็นว่า ครูเบญพร้อมที่จะปรับตัวกับลูกทุกอย่าง เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างครูเบญ และ โอม กลับมาดีเหมือนเดิม

ส่วนตัวละครอื่นๆ ทั้งในทีม Higher (ทีมของโอม) และ ทีม OhmGaga (ทีมของครูเบญ) ค่อนข้างช่วยสร้างสีสันให้หนังเลยทีเดียว ทั้งความเป็นเด็กเกรียนปากเสีย เด็กที่ไม่เก่งเรื่องเรียนแต่เก่งด้าน E-Sport และโดยเฉพาะบทของ วี BNK48 ค่อนข้างเข้ากับบทของคนอื่นได้ดี ไม่เด่นและไม่ด้อยเกินไป ซึ่งบทนี้คิดว่าเหมาะกับ วี ที่สุดแล้ว

สิ่งหนึ่งที่หนังเรื่องนี้สื่อมันออกมา ไม่ใช่เป็นการเอาชนะของการเล่นเกม ROV แต่เป็นหนังที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ที่เกิดมาในยุคที่แตกต่างกัน มีชุดความคิดที่ไม่เหมือนกัน เพราะวิวัฒนาการของโลก ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก มีแต่จะปรับตัวเข้าหากัน หรือจะทะเลาะกันไปวันๆ ก็สุดแล้วแต่ครอบครัวนั้นจะเลือก

แต่สุดท้ายแล้ว เกมเมอร์ เกมแม่ ก็เป็นหนังที่จะนำพาให้ผู้ชมทั้งคนรุ่นใหม่ สนุกไปกับเกม และให้คนรุ่นเก่า ปรับความเข้าใจกันใหม่ ว่าการที่เด็กเล่นเกม มันไม่ได้มีแต่ข้อเสีย มันมีทั้งข้อดี และมันคือกีฬา ที่นิยมกันไปทั่วโลก ที่เรียกว่า E- Sport นั่นเอง