svasdssvasds

คนกรุงเทพฯ ที่สูบบุหรี่เสี่ยงอันตรายจากการรับ pm 2.5 มากกว่าคนไม่สูบบุหรี่

คนกรุงเทพฯ ที่สูบบุหรี่เสี่ยงอันตรายจากการรับ pm 2.5 มากกว่าคนไม่สูบบุหรี่

นอกจากสถานการณ์โควิด 19 ที่ต้องระวังในทุกพื้นที่แล้ว ชาวกรุงเทพฯ ยังเสี่ยงในเรื่องฝุ่น PM 2.5 สูงกว่าในพื้นที่อื่นอีกด้วย แล้วรู้หรือไม่กลุ่มเสี่ยงสำคัญคือ คนที่สูบบุหรี่ ซึ่งสามารถรับ PM 2.5 สูงกว่าคนไม่สูบบุหรี่หลายเท่า

คนที่สูบบุหรี่เสี่ยงได้รับอันตรายจาก PM 2.5 มากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ค่อนข้างมาก ซึ่งมีผลข้อมูลทางสถิติออกมารองรับในเรื่องนี้อย่างชัดเจน โดยได้รับการเปิดเผยจาก ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ 

"ข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2560 คนกรุงเทพฯ สูบบุหรี่ 1.16 ล้านคน เฉลี่ยสูบคนละ 10 มวนต่อวัน โดยเฉลี่ยแล้วคนกลุ่มนี้จะได้รับ PM 2.5 จากการสูบบุหรี่ในจำนวนที่เท่ากับ 220  ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ทุกวัน ซึ่งจะเป็นการได้รับฝุ่น PM 2.5 มากกว่าคนกรุงเทพฯ ที่ไม่สูบบุหรี่ซึ่งมีกว่า 5 ล้านคน ที่จะได้รับ PM 2.5 เฉลี่ย 23 มคก./ลบ.ม. นั่นหมายความว่า คนกรุงเทพฯ ที่สูบบุหรี่ รวมแล้วจะได้รับฝุ่น PM 2.5 ในระดับที่เท่ากับ 243 มคก./ลบ.ม. ทุกวัน ซึ่ง ระดับ PM 2.5 ที่สูงกว่า 91 มคก./ลบ.ม. ขึ้นไป มีผลกระทบต่อสุขภาพมากตามประกาศของกรมอนามัย ขณะที่ PM 2.5 ระดับที่ 26-37 มคก/ลบ.ม. ส่งผลเสียต่อสุขภาพเล็กน้อยถึงปานกลาง ระดับ 38- 50 มคก./ลบ.ม. มีผลต่อสุขภาพปานกลาง โดยเฉพาะคนกลุ่มเสี่ยง ระดับ 51-90 มคก./ลบ.ม. มีผลต่อสุขภาพค่อนข้างมาก"

นักวิชาการคำนวณว่า การสูบบุหรี่หนึ่งมวน จะได้รับ PM 2.5 เท่ากับ 22 มคก./ลบ.ม. ซึ่งเท่ากับว่าคนกรุงเทพฯ ทุกคน ทั้งที่สูบบุหรี่และไม่สูบ จะได้รับฝุ่น PM 2.5 ในปริมาณเท่ากับการสูบบุหรี่หนึ่งมวนต่อวัน ทุกๆ วันตลอดปี 

สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า แม้ยังไม่มีรายงานระดับ PM 2.5 ที่ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเองได้รับ แต่องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ระดับ PM 2.5 ในควันมือสองจากบุหรี่ไฟฟ้า สูงมากกว่าค่าธรรมดาในอากาศ 6-86 เท่า และระดับ PM 1.0 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า มีระดับสูงกว่าในอากาศธรรมดา 14-40 เท่า

คนกรุงเทพฯ ที่สูบบุหรี่เสี่ยงอันตรายจากการรับ pm 2.5 มากกว่าคนไม่สูบบุหรี่

ศ.นพ.ประกิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเรียกร้องให้ผู้สูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้าทุกคน ให้เลิกสูบ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 จะเกินมาตรฐาน หรือไม่ก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ จากการสูบบุหรี่ ที่ครึ่งหนึ่งของคนที่ไม่เลิกจะป่วยและเสียชีวิตก่อนเวลาจากการสูบบุหรี่ การได้รับฝุ่นพิษ PM 2.5 จากอากาศไม่ดี เป็นปัญหาที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของทุกคน แต่การได้รับฝุ่นพิษจากการสูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า และการได้รับควันบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ที่ผู้อื่นสูบ เป็นเรื่องที่ทุกคนจะควบคุมได้ โดยการไม่สูบบุหรี่ หรือไม่อยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า