ฟาดฟันกันสุดฤทธิ์!!! เก็บตก “แฟชั่นเนคไทในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2564

ปฎิเสธไม่ได้ว่าการใส่สูทผูกเนคไทช่วยเสริมให้ลุคดูภูมิฐานมากขึ้น ด้วยประโยคที่ว่า A man wasn’t fully dressed until he had put on his tie. (ผู้ชายยังแต่งตัวไม่เต็มที่ถ้าไม่ได้ผูกไท) แสดงให้เห็นว่าเนคไทเป็นไอเท็มที่ใช้ในการเติมเต็มลุคของผู้ชายให้ดูดี ดูน่าเชื่อถือ รู้มั้ยว่าเนคไทมีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ยุคโบราณ จะเห็นได้จากหลักฐานทางโบราณคดีซึ่งในสมัยนั้นทหารจะผูกผ้าพันคอไว้เพื่อบอกถึงลำดับยศ  จนมาในยุคปัจจุบันได้รับการจดสิทธิบัตรไว้ในปี ค.ศ. 1924 โดย Jesse Langsdorf ช่างตัดเสื้อชาวอเมริกัน ต่อมา Ralph Lauren และแบรนด์แฟชั่นชื่อดังต่างๆ ได้ครีเอตสีสันและลวดลายที่เป็นศิลปะลงไปบนเนคไท ทำให้มีสีสันและดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

ถึงแม้ในที่ประชุมทุกคนแต่งตัวที่ดูเป็นทางการคล้ายๆ กัน แต่สีสันของเนคไทก็เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมลุคและสื่อถึงสไตล์ อารมณ์ และสีสันยังมีความหมายในการเสริมความมั่นใจและบำบัดได้ด้วย

สีส้ม

เป็นสีของความกระปรี้กระเปร่า ร่าเริง มองโลกในแง่ดี  เป็นมิตร ความสดใสของสีส้มเป็นสีของความสุข เพราะช่วงเวลาของพระอาทิตย์ตกเป็นในการผ่อนคลาย และยังช่วยเสริมความมั่นใจได้อีกด้วย

สีม่วง

สื่อถึงความมีอำนาจ  ความสงบนิ่ง เป็นสีแห่งการดูแลปลอบโยน ผ่อนคลายความเครียด บรรเทาความหงุดหงิด และช่วยให้จิตใจสงบ

สีน้ำเงิน

การใส่สูทผูกเนคไทสีน้ำเงิน Total Look ที่มีโทนสีเดียวกันแบบนี้ ช่วยให้ลุคที่ดูสมาร์ทและภูมิฐานขึ้น เป็นสีที่บ่งบอกถึงความมีหลักการและความมั่นคง

สีชมพู

เป็นสีของความเป็นศิลปิน ความอ่อนหวาน โรแมนติก เพ้อฝัน ให้ลุคที่ดูใจดี อบอุ่น สีนี้ยังใช้เป็นสีที่บำบัดความรู้สึกได้ด้วย

สีเหลือง

สีนี้เป็นสีของความสบาย ความรื่นรมย์ อะไรที่ง่ายๆ สบายๆ ความแจ่มใส และเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

สีแดง

สีแห่งความกล้า แน่วแน่ อำนาจ กระตุ้นพลัง ความเข้มแข็ง และยังเป็นสีที่ช่วยเสริมพลังความมั่นใจให้กับลุคในวันนั้น

 

            

ถึงอย่างไรก็ตาม เนคไท ก็เป็นแค่สิ่งที่ช่วยให้ผู้ชายภูมิฐานขึ้น ถ้าบวกกับบุคลิกท่าทางที่ดี ความคิด การพูดจา และอินเนอร์ของทัศนคติที่ดี มันยิ่งจะทำให้คุณดูดีขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า