สกสว. เผยผลวิจัยพฤติกรรมการใช้ชีวิตของครัวเรือนไทยทั่วประเทศ คนไทยตื่นตัว เฝ้าระวัง รับรู้ข่าวสาร และเข้าใจมาตรการต่างๆ ของรัฐชัดเจน ส่วนใหญ่พร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อแนะนำของฝ่ายสาธารณสุข
ผลวิจัยพฤติกรรมการใช้ชีวิตของครัวเรือนไทยทั่วประเทศ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 พบคนไทยตื่นตัว เฝ้าระวัง รับรู้ข่าวสาร และเข้าใจมาตรการต่างๆ ของรัฐชัดเจน ส่วนใหญ่พร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อแนะนำของฝ่ายสาธารณสุข
ผศ.ดร. ธานี ชัยวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมและการทดลอง แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยรายงานการวิจัยต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) แต่มีข้อจำกัดหลายข้อซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมครัวเรือนประจำวัน หรือ เป็นพฤติกรรมทางสังคม ทำให้มาตรการเหล่านั้นได้ผลน้อย
หากรัฐต้องการความร่วมมือมากขึ้น ก็ต้องปรับช่องทางการใช้สื่อ ปรับเนื้อหาการสื่อสารให้เหมาะสม ตรงกับพฤติกรรมประจำวันให้มากขึ้น ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาดก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
จากการติดตาม และเฝ้าระวังเรื่องการรับรู้ ผลการปฏิบัติตามมาตรการของรัฐในสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ซึ่งมีข่าวว่าประชาชนวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับมาตรการรัฐ ปฏิบัติตามคำแนะนำแตกต่างกัน และบางกลุ่มก็คัดค้าน
ผศ.ดร.ธานี จึงตั้งประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมคนไทยช่วงนี้ว่า จะมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรคระบาดที่ฝ่ายสาธารณสุขเผยแพร่หรือไม่ และจะมีการตอบสนองอย่างไร
งานวิจัยนี้ได้รับความร่วมมือจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อร่วมใช้ความรู้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาสังคมอย่างถูกต้องและเหมาะสม
ในงานวิจัยครั้งนี้ แบ่งการศึกษาคนไทยออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
โดยศึกษาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง และการทำกิจกรรมร่วมกัน ศึกษาในช่วงเดือน มีนาคม 2563 ผ่านเครือข่ายวิจัยของกลุ่มสถาบันวิจัยระบบสุขภาพสาธารณสุข และเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ
จากงานวิจัยพบว่า คนไทยทั่วประเทศ ติดตาม รับรู้ ข้อมูลข่าวสาร และมาตรการป้องกันฯ จากฝ่ายสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด มีทัศนคคิต่อข้อมูลเหล่านั้นดี และยินดีปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐ เช่น
นั่นหมายถึงคนไทยส่วนใหญ่ตอบสนองต่อมาตรการของรัฐที่ดี ยินดีร่วมมือปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างพร้อมเพรียง
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมประจำวันที่แตกต่างกันระหว่างคนเขตเมือง คนจนเขตเมือง คนชนบท และคนเขตชายแดนภาคใต้ ทำให้มาตรการที่ฝ่ายสาธารณสุขแนะนำให้งดเว้นหลายข้อได้รับความร่วมมือไม่มากนัก เช่น
สิ่งเหล่านี้ข้างต้น ไม่ใช่ประชาชนดื้อรั้น หรือไม่เห็นด้วยกับมาตรการของรัฐแต่อย่างใด งานวิจัยพบอีกว่า 89 เปอร์เซ็นต์ ของกิจกรรมร่วมกัน หรือสังสรรค์กันของคนเหล่านี้ เกิดขึ้นภายในบ้านหรือครัวเรือน
มาตรการเรื่องการเว้นระยะห่าง จะมีปัญหากับพื้นที่ที่สัดส่วนของจำนวนคนต่อการใช้พื้นที่ ค่อนข้างหนาแน่น เป็นครัวเรือนที่อาศัยอยู่ร่วมกันในบ้าน หรือในห้องเดียวกันหลายคน และด้วยสภาพทางเศรษฐกิจ ห้องก็อาจไม่กว้างมากพอที่จะเว้นระยะห่าง มาตรการนี้จึงได้รับความร่วมมือน้อยกว่าคนในเมือง ถ้ารัฐจะหยุดยั้งการแพร่ระบาดให้สำเร็จ จะต้องเพิ่มระดับการควบคุมจากระดับบุคคลต่อบุคคล เสริมด้วยระดับบุคคลในครัวเรือนต่อบุคคลภายนอกด้วย
ข้อเสนอหนึ่งของทีมวิจัยต่อการสื่อสารเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดนี้คือ ควรมีคำแนะนำหรือข้อปฏิบัติบอกว่าต้องทำอย่างไร ถ้าต้องอยู่ร่วมกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น วิธีปฏิบัติตัวก่อน-หลังเข้าบ้าน วิธีใช้ห้องน้ำร่วมกัน วิธีอยู่ร่วมกันในบ้าน กับเสนอให้รัฐ มองขอบเขตการควบคุมจากระดับบุคคล ให้เป็นระดับเป็นครัวเรือน ต้องมีมาตรการหลากหลายให้เหมาะสมกับพื้นที่และพฤติกรรมของครัวเรือน เสนอแนะว่าควรยกจากระดับปัจเจกบุคคล ควบคู่ไปกับการดูแลเป็นครัวเรือนด้วย
เรียบเรียงจาก งานวิจัยเผยแพร่ Behavioral Insights ของครัวเรือนไทยภายใต้สถานการณ์ COVID-19 โดย ผศ.ดร.ธานี ชัยวัฒน์ และคณะ โดยการสนับสนุนร่วมกันระหว่าง คณะเศรษฐศาสตร์ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
เรื่องน่ารู้จาก COVID-19
อ่านข่าวแนะนำ >>> วิธี กักกันตัวเอง ที่บ้าน ทำอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด
https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/630786
อ่านข่าวแนะนำ >>> Social Distancing ระยะห่างทางสังคม ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/631471
อ่านข่าวแนะนำ >>> วิธีรับมือ ความวิตกกังวลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/634538
อ่านข่าวแนะนำ >>> How To ดูแล สุขภาพจิต เด็กและเยาวชน ระหว่างโรคระบาด
https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/635009
อ่านข่าวแนะนำ >>> How to ทำงานจากบ้าน พร้อมเลี้ยงลูกไปด้วย แบบไม่เสียสติ