svasdssvasds

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA วิเคราะห์แนวโน้มความปลอดภัยด้านชีวอนามัยของอาเซียนในปี 2030 ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 8 ประการทางด้านสุขภาพและสาธารณสุข ที่จำเป็นอย่างยิ่งต้องหาแนวทางรับมือให้ดี

NIA โดยสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม หรือ IFI ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะด้านอนาคตศาสตร์ และช่วยคาดการณ์ทิศทางอนาคตของประเทศไทยในมิติต่างๆ ได้ทำการสำรวจข้อมูลข้อมูลจากหัวข้อการสัมมนา "Biosecurity in ASEAN 2030" ในงานประชุมนานาชาติ "Asia-Pacific Future Network Conference" ครั้งที่ 5 โดยวิเคราะห์แนวโน้มความปลอดภัยด้านชีวอนามัยของอาเซียนในปี 2030

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

และนี่คือ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 8 ประการ ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทั้งทางด้านสุขภาพและสาธารณสุข เป็นสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งการแพทย์และสุขภาพ ภาคสังคม ต้องหาแนวทางรับมือให้ดี ได้แก่

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

1. การเพิ่มขึ้นของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และ การสรรหาพลังงานทดแทนจากสิ่งใหม่ๆ จะเป็นตัวผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะการระบาดของเชื้อโรค เช่น การนำขยะมาพัฒนาเป็นของใช้ที่อาจมีการปนเปื้อนของสารเคมีและเชื้อโรค การใช้ทรัพยากรที่เกินความจำเป็น จนขาดความหลากหลายทางชีวภาพและความไม่สมดุล เป็นต้น

2. การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกนั้นเป็นปัจจัยที่เหมาะ แก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค และ ไวรัสต่างๆ สถานที่ซึ่งไม่เคยมีการแพร่ระบาดก็จะเกิดการแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกยังทำให้เชื้อโรคและไวรัสที่ถูกแช่แข็งตั้งแต่ในอดีตถูกปลุกให้กลับมามีชีวิต

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

3. การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร ที่อาจจะเกิดขึ้นในบางประเทศ ซึ่งทำให้การแพร่ระบาดของเชื้อโรคและไวรัสมีมากขึ้น นอกจากนี้ การที่ประชากรหนาแน่นยังทำให้ผู้คนต้องมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น จนเป็นเหตุให้การส่งผ่านเชื้อโรคต่างๆ สู่กันได้ง่าย เช่น การปนเปื้อนทางอาหาร การใช้บริการสาธารณะ

4. การเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของกลุ่มดังกล่าวที่มีความเสี่ยงทั้งต่ออุบัติภัย การเกิดโรคจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย การสร้างมลภาวะ รวมถึงการหลั่งไหลของประชากรที่เข้ามาทำงานในภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมอันเนื่องมาจากการเปิดประเทศ

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

5. การเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการขยายตัวทางอุตสาหกรรม และการเกิดอุตสาหกรรมใหม่ที่จะมีผลทำให้เชื้อโรคบางชนิดแฝงมากับกิจกรรมดังกล่าว รวมถึงการอุบัติของโรคที่ยังไม่มีคนรู้จัก ความต้านทานของไวรัสบางประเภทที่จะมีมากขึ้น โดยปัจจัยในข้อนี้มักจะมีผลกับพื้นที่สำคัญที่มีการกระจุกตัวทางเศรษฐกิจ เช่น เมืองหลวง, เมืองใหญ่ในระดับภูมิภาค, เมืองอุตสาหกรรม และเมืองท่องเที่ยว

6. การปฏิรูปการใช้ที่ดิน การพัฒนาและการใช้ที่ดินในกิจกรรมต่างๆ ทั้งในเมืองและชนบทอาจเป็นตัวขับเคลื่อนให้เชื้อโรคและไวรัส แพร่กระจายจากพื้นดินเข้าสู่อาคาร รวมถึงสามารถแพร่ไปสู่อากาศได้มากขึ้น นอกจากนี้ การสูบน้ำจากใต้ดินเพื่อการอุปโภคบริโภคก็ยังเป็นพาหะนำโรคติดต่อต่างๆ มาสู่คนและสัตว์ได้เช่นเดียวกัน

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

7. การท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การเดินทางที่มีความสะดวก ผนวกกับเทคโนโลยีการขนส่งที่มีความทันสมัย ทำให้เกิดการหลั่งไหลเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเดินทางในแต่ละครั้งจะนำพาเชื้อโรคและไวรัสต่างๆ จากจุดกำเนิดไปยังสถานที่ใหม่ ส่งผลให้เกิดการระบาดของโรคติดต่อในภูมิภาคใหม่ และแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว

8. การสูญพันธ์ของสัตว์และพืชพรรณบางชนิด จำนวนสิ่งมีชีวิตที่ลดลงอาจทำให้เชื้อโรคและไวรัสที่เคยใช้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเป็นแหล่งฟักตัวหรือเป็นแหล่งอาศัย เริ่มปรับตัว และหาที่อาศัยใหม่ เช่น จากพืชสู่สัตว์ จากสัตว์สู่คนมากขึ้น โดยในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีการเกิดโรคติดต่อที่เกิดจากคนสู่สัตว์เกิดขึ้นแล้วในหลายๆ ประเทศรวมถึงไทยและอาเซียน ซึ่งควรมีการวิจัยหรือการติดตามที่เป็นระยะ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมและหาแนวทางป้องกันต่อไป

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

จากปัจจัยที่กล่าวมายังพบอีกว่า การระบาดของเชื้อแบคทีเรียและไวรัสมีโอกาสเกิดขึ้นได้มาก โดยเฉพาะ ไข้อีโบลา(Ebola), โรคซาร์ส(SARS), ไวรัสซิกา(Zika), ไข้เหลือง(Yellow Fever), ไข้หวัดใหญ่(Influenza) และ ไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร(African Swine Fever) ซึ่งเป็นเชื้อที่มีความรุนแรงและอันตรายในระดับสูง บางชนิดสามารถแพร่กระจายผ่านทางอากาศได้ เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้การแพร่กระจายของเชื้อเกิดขึ้นได้เร็วกว่าในธรรมชาติหลายเท่า เป็นภัยคุกคามที่จะเกิดกับความปลอดภัยทางชีวอนามัยในอนาคต

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประชากรโลกต้องเผชิญกับความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทุกครั้งที่เกิดสถานการณ์ดังกล่าว มักไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า และหลายครั้งยังขาดวิธีการรับมือที่เป็นรูปธรรม เนื่องจากขาดระบบคาดการณ์ที่มีประสิทธิภาพ การเก็บข้อมูล การใช้สถิติ รวมทั้งขาดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการมองอนาคตที่มีการดำเนินงานอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ประชากรโลกต้องตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ การพยากรณ์และการคาดการณ์การเกิดโรคจึงจำเป็นอย่างมากสำหรับทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งการพยากรณ์เหตุการณ์ของโรคภัยที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน มีความคล้ายคลึงกับการทำนายสภาพอากาศของประเทศ ที่จะช่วยให้เกิดการเตรียมการล่วงหน้า สามารถรับมือหรือออกมาตรการที่เหมาะสม รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีอันเป็นผลดีต่อการสื่อสารความเสี่ยงและเตือนภัยการระบาดของโรคกับสาธารณชนได้เป็นอย่างดี

8 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ที่อาเซียนต้องเตรียมรับมือ

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 02-017-5555 เว็บไซต์ www.nia.or.th และ NIA : National Innovation Agency, Thailand

 

 

related