PM2.5 มีผลต่อสุขภาพจิตของเด็ก

วารสารทางการแพทย์ในสหรัฐฯเผยแพร่ผลการศึกษาผลกระทบจากมลพิษทางอากาศที่มีต่อสุขภาพจิตเด็ก โดยมีการเจาะจงไปที่ PM2.5 และได้เก็บข้อมูลจากโรงพยาบาลเด็ก พบว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตรวจพบค่า PM2.5 ในปริมาณสูง จำนวนผู้มาพบจิตแพทย์จะสูงขึ้นกว่าปกติในอีก 2-3 วันต่อมา ในขณะที่ผู้ป่วยที่มาพบจิตแพทย์วันเดียวกับที่ค่ามลพิษสูง มักเป็นผู้ป่วยจิตเภท ขณะที่สองสามวันต่อมา มักจะเป็นผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการปรับสภาพจิตใจและมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย

นอกจากนี้ เด็กๆที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มเด็กด้อยโอกาส เด็กที่อยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจสังคมระดับล่าง และเด็กที่มีโอกาสเข้าถึงบริการสุขภาพได้น้อย เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากว่าจะได้รับผลกระทบทางจิตใจเมื่อมลพิษทางอากาศพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอาการวิตกกังวลและความคิดอยากฆ่าตัวตาย

ที่ผ่านมาได้มีการพบความเชื่อมโยงระหว่างฝุ่นพิษและการเพิ่มขึ้นของความผิดปกติทางจิตเวชในผู้ใหญ่ แต่ยังไม่เคยมีการค้นคว้าผลกระทบที่มีต่อสุขภาพจิตของเด็ก

ผลการศึกษาล่าสุดนี้ เป็นอีกหนึ่งงานวิจัยที่ยืนยันว่าการสัมผัสกับมลพิษทางอากาศตั้งแต่วัยเยาว์ มีส่วนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น อย่างเช่นโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวล

แม้ว่าผลการวิจัยล่าสุดนี้จะเจาะจงไปที่ฝุ่น PM2.5 แต่ก็มีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่พบความเชื่อมโยงระหว่างมลพิษทางอากาศกับสุขภาพจิตของเยาวชน อย่างการศึกษาในอังกฤษเผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าเด็กวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองมีความเสี่ยงที่จะพัฒนาความผิดปกติของจิตเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ถึง 2 เท่าของคนที่อาศัยอยู่นอกเมือง โดยมีความเกี่ยวข้องกับปริมาณไนโตรเจนไดออกไซด์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-“นุ้ย สุจิรา” วอนท่านคะท่าน เร่งแก้ปัญหา ฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน หลังกลับมาพุ่งสูง

-อาหารช่วยลดผลกระทบจากฝุ่นพิษ

-ป้องกันตนเองจากฝุ่นพิษ PM 2.5

-สธ.เร่งช่วย! “5จว.ใต้” อ่วมพิษหมอกควันอินโดฯ ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน