svasdssvasds

จะเป็นอย่างไร หากโลกนี้ไม่เคยมี สตีฟ จ็อบส์

จะเป็นอย่างไร หากโลกนี้ไม่เคยมี สตีฟ จ็อบส์

เรารู้จัก สตีฟ จ็อบส์ ในฐานะอัจฉริยะผู้พลิกโลกแห่งวงการไอที เป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นสุดยอดซีอีโอ ของ Apple ที่ถือเป็นศาสดาของเหล่าสาวกผู้ใช้ iPhone iPad iPod ทั่วโลก แต่จะเป็นอย่างไรหากในโลกนี้ไม่มีผู้ก่อตั้งคนนี้และไม่มี Apple ลองจินตนาการเล่นๆ ถึงโลกที่แตกต่าง ที่ไม่เคยมีการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวในหอประชุม ไม่มี iPod หรือ iPhone และไม่เคยมี iPad จะมีบริษัทไหนพบวิธีที่จะประสบความสำเร็จและทำในสิ่งที่จ็อบส์และ Apple ทำได้หรือไม่ หรือจะมีใครทำได้ดีกว่านี้หรือไม่

Apple สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการออกแบบที่คงความเป็นเอกลักษณ์ที่สวยและเรียบง่าย แถมยังทำให้ธุรกิจพีซีพุ่งสูงขึ้น รวมถึงสร้างสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในปัจจุบัน หากไม่มี Apple และจ็อบส์ เราอาจยังคงต้องใช้ Walkman ของ Sony คงไม่รู้จัก iTunes App Store และคงไม่มี Macintosh iMac iPod iPhone หรือ iPad

ด้านการออกแบบ

Apple ให้ความสำคัญกับการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดูสวยงามและใช้งานง่ายโดยเริ่มต้นจากเปิดตัวคอมพิวเตอร์เครื่องแรกในช่วงปลายปี 1970 โดย Apple เป็นเจ้าแรกที่ผสมผสานการออกแบบที่หรูหราแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ ในท้องตลาด หลังจากนั้นเครื่อง Macintosh ของ Apple ก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับแวดวงอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เป็นผู้เริ่มพลิกวงการพิมพ์และออกแบบโดยใช้ระบบปฏิบัติการที่ถือว่า ฉลาด และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุดในขณะนั้น

จ็อบส์ เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดใหม่ๆ อย่างการใช้งานผ่านเมาส์ แม้หน้าจอจะยังคงใช้เป็นตัวหนังสือในการเดินเครื่องเป็นหลัก แต่ก็เพิ่มสีและลวดลายมากขึ้น เป็นการย้ำความสมบูรณ์แบบภายในงานการออกแบบของเขาที่ให้ความใส่ใจทั้งรูปแบบภายในและภายนอก และแนวคิดนี้ก็ทำให้เกิดการสร้าง Macintosh iMac และ MacBook รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ในการใช้งานร่วมอีกด้วย แนวคิดที่ทันสมัยในการออกแบบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเกิดขึ้นได้จากจ๊อบส์ ซึ่งหากไม่มีเขาทุกอย่างคงดูต่างออกไปมาก

จะเป็นอย่างไร หากโลกนี้ไม่เคยมี สตีฟ จ็อบส์

การเข้าถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอาจต้องใช้เวลาเข้าถึงช้าลง

ทิม บาจาริน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี กล่าวว่า Apple เป็นบริษัทแรกที่จำหน่ายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเชิงพาณิชย์ โดยชี้ไปที่การเปิดตัว Apple II ในปี 1978 ที่มุ่งเน้นไปที่ผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้น จัดเป็นการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง

ชาร์ลส์ โกลวิน นักวิเคราะห์ของ Forrester บริษัททางด้านวิจัยการตลาดกล่าว Apple กระตุ้นตลาดให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้อย่างแท้จริง หากไม่มี Apple คาดการณ์ว่าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในขณะนั้นจะยังคงให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานในกลุ่มธุรกิจและกลุ่มมหาวิทยาลัยอยู่ นักวิเคราะห์บางคนถึงกับกล่าวว่าอาจต้องใช้เวลาเพิ่มอีก 4 – 5 ปีสำหรับการที่ผู้บริโภคทั่วไปจะสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและมีไว้ใช้งานได้จริงภายในบ้าน

ปฏิวัติวงการเพลงและภาพยนตร์ในระบบดิจิทัล

ร้านค้าเพลง iTunes และ iPod ของ Apple ถือเป็นการปฏิวัติการดาวน์โหลดเพลงรวมถึงยอดขายที่ใช้ในระบบดิจิทัล ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เหล่านี้ยังช่วยให้เราสามารถฟังเพลงหลายพันเพลงได้เป็นครั้งแรกโดยไม่ต้องใช้ซีดี ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป และทำให้ได้รับประสบการณ์ที่แตกต่าง คุณอาจไม่รู้ว่าจ็อบส์เป็นผู้ร่วมก่อตั้งของพิกซ่าร์และเป็นบอร์ดของดิสนีย์ด้วย จึงเกิดสตูดิโอที่สร้างภาพยนตร์การ์ตูนอย่าง Toy Story หรือ Monsters Inc และ Finding Nemo

จะเป็นอย่างไร หากโลกนี้ไม่เคยมี สตีฟ จ็อบส์

การปฏิวัติวงการดิจิตอล

ในปี 2007 จ็อบส์ นำ iPhone ออกจากกระเป๋าของเขาแล้วบอกว่า นี่คือโทรศัพท์ iPod และอุปกรณ์สื่อสารอินเทอร์เน็ต มันคือสิ่งที่สมาร์ทโฟนสามารถทำได้ในปัจจุบันนี้ และ iPhone เป็นโทรศัพท์เครื่องแรกที่ใช้หน้าจอสัมผัสทั้งหมด และนั่นทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ iPhone เป็นล้าน ๆ เครื่อง

Apple ลองใช้แท็บเล็ต Apple Newton น้ำหนัก 800 กรัมที่ค่อนข้างหนัก หลังจากนั้นจึงได้เปิดตัว iPad เมื่อต้นปี 2010 โดยบอกว่าไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ใหม่แต่เป็นนวัตกรรม แน่นอนว่าพบกับความเห็นที่หลากหลายทั้งถากถางดูถูกหลังจากนั้น แต่สิ่งที่เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีเลยก็คือยอดขายในรอบห้าปีที่สามารถขายได้ถึง 258 ล้านเครื่อง จ็อบส์ กล่าวว่า เขาไม่เชื่อในการวิจัยทางการตลาด ผู้คนไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร จนกว่าเราจะแสดงให้พวกเขาดู

ในโลกที่ไม่มี สตีฟ จ็อบส์ เราอาจรู้สึกไม่ค่อยได้ตกตะลึงมากมายนัก และไม่ว่าใครจะชัง Apple มากแค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือมรดกจาก Steve Jobs ที่จุดประกายขึ้นมาทำให้โลกเป็นอย่างทุกวันนี้