เลี้ยงลูกท่ามกลางพื้นที่สีเขียว เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของลูกน้อย

งานวิจัยล่าสุดที่ใช้เวลาศึกษานานกว่า 30 ปี พบว่า เด็กที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางพื้นที่สีเขียว จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงเกิดปัญหาด้านสุขภาพจิตลดลง การที่เด็กเติบโตในบ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้ แทนที่จะโตขึ้นมาในตึกกลางเมืองใหญ่ เป็นการลดความเสี่ยงที่ลูกจะมีปัญหาด้านสุขภาพจิตเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นและโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

นักวิจัยชาวเดนมาร์กติดตามชีวิตเด็ก 900,000 คนในช่วงปี 1985 ถึงปี 2013 พบว่าเด็กที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่มีพื้นที่สีเขียวในระดับที่ต่ำ มีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาด้านสุขภาพจิตสูงขึ้น 55 เปอร์เซ็นต์

นักวิจัยใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมเป็นตัวกำหนดพื้นที่สีเขียวที่แวดล้อมที่พักอาศัยในวัยเด็กของผู้ที่เข้าร่วมงานวิจัย พบว่ายิ่งเด็กมองจากบ้านออกไปเห็นต้นไม้สีเขียวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสุขภาพจิตดีมากขึ้นเท่านั้น

แต่การที่เด็กมีบ้านอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่ป่า สวนสาธารณะ และพื้นที่สีเขียวในเมือง ดูจะไม่สร้างความแตกต่างใดๆ ประเด็นอยู่ที่เด็กสามารถมองเห็นและสัมผัสพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน เช่นสนามหญ้าหน้าบ้านหรือหลังบ้านของตัวเองต่างหากที่สำคัญกว่า

ถึงแม้ว่าจะมีการศึกษาขนาดเล็กที่พบก่อนหน้านี้แล้วว่า การขาดพื้นที่สีเขียวเพิ่มความเสี่ยงของอารมณ์ที่ผิดปกติและโรคจิตเภท ซึ่งอาจถึงกับส่งผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบว่า พื้นที่สีเขียวเป็นปัจจัยสำคัญไม่ต่างกับปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต เช่นประวัติของคนในครอบครัวที่เป็นโรคเกี่ยวกับสุขภาพจิต หรือสถานะทางสังคม

สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนคือ เรายังไม่พบว่าอะไรกันแน่เกี่ยวกับการอาศัยอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่ส่งผลเชิงป้องกันเช่นนี้

พื้นที่สีเขียวที่เพิ่มขึ้น อาจกระตุ้นให้เด็กๆได้เล่นกลางแจ้ง ได้ออกกำลัง และมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม หรือลดมลพิษทางอากาศและเสียง การได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่มีความหลากหลายก็มีบทบาทมากด้วยเช่นกัน

ถึงแม้ว่าจะมีกลไกอีกมากมายที่ต้องศึกษาต่อจากนี้ แต่การศึกษานี้ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดเพราะเป็นการบ่งบอกว่า การวางผังเมืองที่ดีสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและความกินดีอยู่ดีของเราทุกคน

มาปลูกต้นไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน เพื่อเด็กๆของเรากันเถอะ