ออฟฟิศดราม่า ทำอย่างไรให้ห่างไกลจากเรื่องดราม่าในที่ทำงาน

หนึ่งในวิธีที่จะทำงานได้อย่างสงบสุขคือการอยู่ให้ห่างไกลดราม่าในออฟฟิศ แต่ทำอย่างไรถึงจะหลีกเลี่ยงหรืออยู่ห่างๆ ความปวดหัวนี้ให้ได้มากที่สุดวารสารทรัพยากรมนุษย์ HR Digest มีข้อแนะนำ

อยู่ให้ไกลคนก่อเหตุ

คนที่ชอบนินทาเพื่อนที่ทำงาน แน่นอนว่าต้องหาเพื่อนเม้าท์ไปเรื่อย และคาดหวังให้คนอื่นช่วยสุมไฟเข้าไปอีก ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาวะแวดล้อมการทำงาน ลินด์ สวินดลิง ได้ทำการสำรวจเรื่อง “ออฟฟิศดราม่าโดยไม่จำเป็น” พบว่า 78 เปอร์เซ็นต์ของคนที่เข้าร่วมการสำรวจ ใช้เวลา 3 ถึง 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ไปกับการฟังคนอื่นบ่น

ยิ่งคุณใช้เวลากับคนชอบนินทานานเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเสียเวลาไปกับบทสนทนาที่เป็นพิษมากขึ้นเท่านั้น การนินทาในที่ทำงานไม่ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับงานของคุณ ลองหาทางจบบทสนทนาอย่างสุภาพ อย่างเช่นอ้างว่าคุณมีงานที่ต้องทำให้เสร็จโดยด่วน

“ไม่ใช่เรื่องของฉัน”

เมื่อคุณพยายามจบบทสนทนาอย่างสุภาพแต่ไม่ได้ผล คุณอยากจะปฏิบัติต่อทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมและหลุดออกจากสถานการณ์ที่ถูกบังคับให้ตัดสินคนอื่น ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะหลีกเลี่ยงการต้องเลือกข้างอย่างไร ให้พยายามเปลี่ยนเรื่องคุย

หลีกเลี่ยงการระบายที่เป็นพิษ

การระบายเรื่องคับข้องใจนั้นเป็นเรื่องปกติ เป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพจิตที่จะช่วยให้คลายความขุ่นหมอง แต่เมื่อไรที่เริ่มแชร์ความเครียดและความรำคาญเรื่องงานกับคนที่ชอบเอาไปพูดต่อ มันจะกลายเป็นว่าคุณกำลังแพร่กระจายเรื่องส่วนตัวไปทั่วออฟฟิศ ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณต้องคิดมากๆ ว่าจะแชร์เรื่องส่วนตัวกับใครที่ทำงาน

ในอีกด้าน คุณก็อยากจะเป็นผู้ฟังที่ดีให้เพื่อนร่วมงานได้ระบายความอัดอั้น แต่บ่อยครั้งที่คุณตกเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดกับบทสนทนาที่เป็นพิษและสร้างออฟฟิศดราม่าเสียเอง เมื่อการระบายความอัดอั้น ไม่ใช่แค่การระบาย แต่กลายเป็นว่าคนที่ระบายหมกมุ่นอยู่กับ”ความผิด”ของคนอื่น จนเลยเถิดไปถึงใช้คำไม่สุภาพ เรียกชื่อต่างๆ นานา วิพากษ์วิจารณ์หรือดูถูกเหยียดหยาม ยิ่งแต่จะสร้างความวุ่นวาย ถึงเวลาที่คุณต้องดึงตัวเองออกจากสมการ หรือพยายามทำให้ความตึงเครียดทุเลาลง

หยุดคิดก่อน

ถ้าคุณกำลังประชุมและถูกโจมตีโดยเพื่อนร่วมงาน ถ้าคุณรู้สึกถึงความขัดแย้ง ทำให้อารมณ์ขุ่นมัว ให้หยุดคิดก่อน เพื่อขจัดความคิดที่เกิดจากความโมโห โดยเฉพาะถ้าคุณได้รับอีเมลเรื่องงานที่ไม่สุภาพจนคุณอยากจะตอบแบบหยาบคายและ cc เจ้านายเข้าไปด้วย แน่นอนว่าคุณเกิดความรำคาญ และถึงแม้คนอื่นๆจะเข้าใจเหตุผล แต่กลายเป็นว่าทุกคนเริ่มออกความเห็น และเริ่มเลือกข้างในความขัดแย้งครั้งนี้

พยายามสงบใจ และพยายามลองฟังจากมุมมองและความเห็นของเพื่อนร่วมงานคนอื่น การรับมือสถานการณ์อย่างใจเย็นเป็นการแสดงถึงวุฒิภาวะอย่างมืออาชีพของคุณด้วย

หาทางคุยกัน

ในหลายๆครั้ง สถานการณ์จะคลี่คลายได้ง่ายกว่า เมื่อคุณพยายามนั่งคุยกัน แทนที่จะยิ่งขุดเรื่องความเข้าใจผิด ลองพยายามเข้าใจเรื่องราวจากมุมมองของอีกฝ่าย ก่อนที่จะเดินเข้าหาหัวหน้าเพื่อร้องทุกข์เรื่องที่เกิดขึ้น

บ่อยครั้งที่คนทั่วไปมักพยายามวิ่งหนีจากความขัดแย้งในออฟฟิศแทนที่จะพยายามหาทางออกเพราะไม่อยากกลายเป็นทำให้เพื่อนร่วมงานต้องอารมณ์เสีย แต่ถ้าคุณไม่พยายามจัดการกับเรื่องที่เป็นปัญหาทันที คุณกำลังปฏิเสธโอกาสให้ตัวเองและคู่กรณีที่จะเติบโต การพูดคุยกันโดยตรงจะทำให้เข้าใจกันผิดน้อยลง และเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะหาทางออกร่วมกันโดยยังไม่เสียความรู้สึก