svasdssvasds

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

ปัจจุบันผู้หญิงไม่ได้ถูกตีกรอบ หรือ จำกัดรูปแบบการทำงานดั่งเช่นอดีต เรามีผู้หญิงเก่งสุดสตรองมากขึ้นในหลากหลายวงการ วิศวกรหญิง เป็นอีกอาชีพที่ต้องก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพเช่นกัน

สายงานอาชีพวิศวกร ภาพจำของกรอบการทำงานที่ผู้คนส่วนใหญ่นึกถึง คือ การต้องลงพื้นที่ทำงานกลางแจ้ง ต้องคุมหน้างานโครงการก่อสร้างให้ทำงานได้ตามมาตรฐานกำหนด ซึ่งในภาพจำนั้นเรามักนึกถึงวิศวกรชายมากกว่า แต่ปัจจุบันนี้แนวคิดได้เปลี่ยนแปลงไป สังคมรับรู้ ยอมรับ และชื่นชม วิศวกรหญิง ที่ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ

มาทำความรู้จักกับวิศวกรหญิงสุดสตรอง ทั้ง 4 เจเนอเรชัน

คนแรก เป็นวิศวกรหญิงแกร่งแห่งวงการยานยนต์ ผู้ทำการวิจัยพลังงานทดแทน และระบบไอเสียเครื่องยนต์เป็นคนแรก ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้วิศวกรยุคใหม่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์

รองศาสตราจารย์ พูลพร แสงบางปลา มีหลายบทบาทในสังคม ไม่ว่าจะเป็น กรรมการจรรยาบรรณ สภาวิศวกร, นายกกิตติมศักดิ์สมาคมวิศวกรยานยนต์ไทย, นายกสมาคมวิศวกรหญิงไทยคนแรก, ประธานกลุ่มชิ้นส่วนและยานยนต์ ASEAN และยังเป็นหนึ่งในทีมทดลองวิจัยพลังงานทดแทนในเครื่องยนต์ อีกด้วย

รองศาสตราจารย์ พูลพร กล่าวถึงบทบาทการทำงานในฐานะวิศวกรหญิงว่า ไม่มีคำว่ายาก หากนำความรู้ที่ได้ศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยตลอด 4 ปี มาประยุกต์ใช้ในโลกของการทำงานได้อย่างเหมาะสม ภายใต้การยึดมั่นในจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม สิ่งสำคัญสำหรับวิศวกรรุ่นใหม่ คือจะต้องเรียนรู้รอบด้าน เพื่อก้าวให้ทันกับยุคอุตสาหกรรม 4.0 ต้องไม่เก่งเฉพาะวิชาที่เรียนมาเท่านั้น ต้องศึกษาศาสตร์วิศวกรรม ทั้งวิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรรมอุตสาหการ หรือกระทั่งหลักการบริหารงาน, การบริหารคน และการบริหารเงิน

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

"ความท้าทายของผู้หญิงในอาชีพวิศวกร สำหรับตัวเองแล้ว เริ่มตั้งแต่การตัดสินใจก้าวเข้าสู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ รั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี 2500 เป็นผู้หญิงคนเดียวในคณะ ทำให้ต้องมีความมานะ อดทน เพื่อพิสูจน์ถึงความเป็นผู้หญิงที่สามารถประกอบอาชีพวิศวกรได้ เมื่อเรียนจบการศึกษา ก็ได้ทำอาชีพวิศวกรอย่างเต็มตัว เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น จากนั้นก็ตัดสินใจผันตัวเองสู่การเป็นอาชีพ "เรือจ้าง" เป็นอาจารย์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อปลุกปั้นบุคลากรที่มีคุณภาพประดับวงการ"

ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ผลงานที่ชื่นชอบและภาคภูมิใจของ อาจารย์พูลพร คือ การทดลองวิจัยพลังงานทดแทน โดยเป็นคนไทยคนแรกที่วิจัยเรื่องนี้ ทั้ง แก๊สแอลพีจี (LPG), ซีเอ็นจี (CNG), เอทานอล (Ethanol) และไบโอดีเซล (Biodiesel) ทำให้ทุกวันนี้ประเทศไทยใช้พลังงานทดแทนต่างๆ ตามงานวิจัยของอาจารย์ รวมทั้งระบบไอเสีย จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น หญิงแกร่งแห่งวงการยานยนต์ อาจารย์ยังคงมุ่งมั่นปลุกปั้นบุคลากรวิศวกรไทย เพื่อทำงานช่วยเหลือสังคม และ พัฒนาประเทศไทยให้มีความยั่งยืนต่อไป

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

คนที่สอง เป็นวิศวกรหญิงผู้ผันตัวเองเข้าสู่เส้นทางสายการศึกษา ด้วยเป้าหมายที่ในอนาคตต้องการผลิตวิศวกรรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพออกสู่ ภาคธุรกิจ, อุตสาหกรรม ตลอดจนสามารถสร้างธุรกิจของตัวเองได้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภมาศ สุชาตานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) หรือ TSE (Thammasat School of Engineering) กล่าวถึงจุดเปลี่ยนของการทำงานในสายวิศวกรหญิงสู่เส้นทางการศึกษาว่า เกิดจากความต้องการในการส่งต่อองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมอุตสาหการให้เกิดขึ้นในวงกว้างยิ่งขึ้น ผ่านเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีแพสชันในการเป็นวิศวกร นอกเหนือจากการเป็นฟันเฟืองหนึ่งในการวางแผน การบริหารจัดการ, คำนวณต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์, การวางผังโรงงาน, การควบคุมกระบวนการผลิต และอื่นๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการยกระดับศักยภาพของโรงงานสายการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งความรู้ในสาขาดังกล่าวสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานได้ในหลากมิติ ควบคู่ไปกับการปรับตัวให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง และไม่หยุดเรียนรู้เทคโนโลยีหรืออัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

ในอดีตนั้นการทำงานในฐานะวิศวกรหญิงประจำโรงงานสายการผลิต จะต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านการทำงานในบางประการ อาทิ การลงพื้นที่ทำงานในต่างจังหวัด, การประสานและควบคุมการทำงานของช่างเทคนิคในฝ่ายต่างๆ

"เรื่องเพศ ทั้งเพศหญิง และเพศที่สาม (LGBTQ) มิใช่ข้อจำกัดในการทำงานสายวิศวกรรม ในปัจจุบันหากคุณสามารถแสดงศักยภาพเป็นที่ประจักษ์ได้ หรือ ทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี เมื่อนั้นคุณก็จะได้รับการยอมรับอย่างไร้เงื่อนไข"

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

คนที่สาม เป็นวิศวกรหญิงผู้มาพร้อมกับความมุ่งมั่น ใช้ใบ ก.ว. ประกอบอาชีพวิศวกรโยธา ที่ต้องลงไปลุยหน้างานจริงของโครงการก่อสร้างต่างๆ

ชลธิชา ปิยะศิริศิลป์ วิศวกรประมาณราคา บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการก้าวสู้เส้นทางอาชีพวิศวกรหญิงว่า การก่อสร้างเป็นหนึ่งในผลงานที่มีรูปธรรมจับต้องได้ ซึ่งมีความใฝ่ฝันว่าในอนาคตหากมีครอบครัว อยากถ่ายทอดให้ลูกฟังถึงตึกที่แม่สร้างอย่างภาคภูมิใจ ทุกตึกมีโครงสร้างและดีไซน์แตกต่างกัน ดังนั้น ตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนปลาย จึงวางแผนชีวิต และเลือกศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย ในหลักสูตรวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมกับสอบใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม หรือ ใบ ก.ว. กับสภาวิศวกรทันทีที่สำเร็จการศึกษา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเบิกทางสู่เป้าหมายอาชีพวิศวกรโยธาหญิงอย่างเต็มตัว

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

" กว่าจะก้าวสู่อาชีพวิศวกรโยธาได้สำเร็จนั้น ต้องใช้ความอดทนสูง โดยสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่คณะจะมีเพื่อนผู้หญิงน้อยมาก ในรูปแบบการทำงานบางประเภทอย่าง 'การประมาณการก่อสร้าง และการวางแผน' ส่วนตัวมองว่า วิศวกรหญิงสามารถทำได้ดีกว่าผู้ชาย ด้วยความที่ผู้หญิงมีความละเอียดอ่อนที่มากกว่า โดยทุกวันนี้ ยังรู้สึกสนุกกับการออกดูไซด์งานก่อสร้าง และเชื่อมั่นว่า ผู้หญิงก็สามารถทำงานวิศวกรโยธาได้ดีไม่ต่างจากผู้ชาย"

สำหรับความท้าทายโลกของการทำงานในฐานะ วิศวกรประมาณราคา (Estimated Engineer) คือ การให้คำปรึกษากับเจ้าของโครงการและผู้ออกแบบที่ต้องอาศัยความแม่นยำเป็นอย่างมาก เพราะหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น อาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย ทั้งการก่อสร้างผิดแบบ หรือ ก่อสร้างแล้วไม่ประสบความสำเร็จ

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

ชลธิชา จึงอยากฝากแนวคิดให้กับน้องๆ ที่ต้องการเติบโตบนเส้นทางอาชีพวิศวกรว่า ต้องเก็บเกี่ยวความรู้นับตั้งแต่ที่เรียนในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะ เมื่อก้าวสู่อาชีพวิศวกรถือว่าอยู่ในระดับหัวหน้างาน ต้องมีภาวะการเป็นผู้นำ ชี้แนะแนวทางการทำงานให้กับโฟร์แมน สำหรับตนเองนั้น เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเป็นผู้รับเหมาร่วม 5 ปี เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างอย่างแท้จริง

คนที่สี่ เป็นวิศวกรหญิงรุ่นใหม่ เดินตามฝันกับสายอาชีพวิศวกรรมอุตสาหการ ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในวิศวกรหญิงที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

ณัชชา คูณอเนกสิน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) มีความสนใจศึกษาต่อทางด้านวิศวกรรมอุตสาหการ โดยมองว่าเป็นหลักสูตรที่มีสาขาน่าเรียนหลายแขนง อีกทั้งมีกลุ่มงานรองรับมั่นคงหลากหลายทั้งบริษัทและโรงงานอุตสาหกรรม เป็นหลักสูตรที่ตอบโจทย์โลกการทำงานในปัจจุบันและอนาคตที่มีเรื่องของเทคโนโลยีมาเกี่ยวพัน

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. เป็นสถาบันที่เข้มแข็งด้านวิศวกรรมศาสตร์ มีกิจกรรมที่กระตุ้นการคิด-วิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเน้นสร้างประสบการณ์จากการลงมือทำมากกว่าการเลคเชอร์ โดยมีอาจารย์ให้คำปรึกษา จึงทำให้ได้สัมผัสและคุ้นเคยกับรูปแบบการทำงานจริง ก่อนเดินทางไปฝึกประสบการณ์ ณ มหาวิทยาลัยโตไก ประเทศญี่ปุ่น

จากประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนและฝึกงานที่ญี่ปุ่น พบว่า วิศวกรหญิงมีแนวโน้มการเติบโตและประสบความสำเร็จจำนวนมาก ทั้งในบริษัทเอกชนและโรงงานอุตสาหกรรม จึงตั้งเป้าเป็นหนึ่งในวิศวกรหญิงที่ประสบความสำเร็จ และก้าวหน้าในอาชีพ โดยตอนนี้เตรียมวางแผนศึกษาต่อในระดับปริญญาโท เพื่อนำความรู้เชิงลึกที่ได้เข้าไปเติมเต็มและขับเคลื่อนการทำงานในสายวิศวกรรมอุตสาหการ ตามที่ตั้งใจได้อย่างเต็มศักยภาพ

ก้าวข้ามกรอบความท้าทายทางอาชีพ กับ 4 วิศวกรหญิงสุดสตรอง

สมาชิกวิศวกร ที่ขึ้นทะเบียนกับ สภาวิศวกร (COE) ล่าสุดมีจำนวนกว่า 170,000 ราย มากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นวิศวกรหญิง ครอบคลุม 7 สาขา ได้แก่ วิศวกรรมโยธา, วิศวกรรมเหมืองแร่, วิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรรมไฟฟ้า, วิศวกรรมอุตสาหการ, วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม และวิศวกรรมเคมี

ผู้ที่จบการศึกษาในหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตใน 7 สาขา ดังกล่าว สามารถสมัครเป็นสมาชิกสภาวิศวกร เพื่อสอบใบอนุญาตประกอบอาชีพวิศวกรรมควบคุม หรือ ใบ ก.ว. ได้ที่ สภาวิศวกร ซอยรามคำแหง 39 (เทพลีลา 1) กรุงเทพฯ สามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวกิจกรรมของสภาวิศวกรได้ที่ เว็บไซต์ www.coe.or.th หรือ เพจเฟซบุ๊ก สภาวิศวกร - Council of Engineers Thailand หรือ สายด่วน 1303