svasdssvasds

เปิดใจ ถอดบทเรียน อดีตผู้ติดเชื้อโควิด 19

เปิดใจ ถอดบทเรียน อดีตผู้ติดเชื้อโควิด 19

เปิดใจ ถอดบทเรียน ของอดีตผู้ติดเชื้อรายนี้ ได้รับการยืนยันจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ลินดา เกณฑ์มา อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ว่า รักษาหาย ไม่พบเชื้อ และกลับบ้านได้เรียบร้อยแล้ว

เปิดใจ ถอดบทเรียน ครั้งนี้ สปริงนิวส์ได้รับการอนุญาตให้นำบทสัมภาษณ์ของ สมชาย (นามสมมุติ) อดีตผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพศชายอายุ 22 ปี มาเผยแพร่ เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนเข้าใจถึงโรคไวรัสโควิด 19 ได้ชัดเจนขึ้น

จุดเริ่มอาการและเข้ารับการตรวจ

สมชาย กล่าวว่า เขาโชคดีที่ติดตามข่าวเป็นประจำ ทางมหาวิทยาลัยก็ให้ข้อมูลเรื่องหลักการปฏิบัติตัว และวิธีป้องกันการติดเชื้อตั้งแต่มีข่าวใหม่ๆ จึงทำให้เขาและเพื่อนๆ นักศึกษาด้วยกันคุยกันถึงเรื่องนี้

ทุกคนใช้ชีวิตปกติ แต่มีการป้องกันตัวเองเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็น การใส่หน้ากาก ล้างมือตามจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ตามที่ต่างๆ ในมหาวิทยาลัย

​จนมาวันหนึ่ง เขาได้ไปนั่งสังสรรค์กับรุ่นพี่ที่ร้านอาหาร แล้วมีหนึ่งในนั้นเล่าว่า ที่บริษัทก็มีคนติดเชื้อ หลังจากนั้นอาทิตย์ต่อมา พี่คนนั้นก็ได้ไปตรวจแล้วพบติดเชื้อไวรัสโควิด 19

จากนั้น สมชายเกิดอาการท้องเสีย ไม่มีอาการไข้ แต่ด้วยความกังวลเขาจึงโทรปรึกษาอาจารย์ใกล้ชิด ซึ่งได้รับคำแนะนำให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ สมชายจึงไปตรวจแล้วพบว่า ติดเชื้อ อาจารย์ก็ช่วยประสานงานส่งตัวเข้ารับการรักษาในทันที

เมื่อตรวจพบว่า ติดเชื้อ

เมื่อผลออกมาว่าติดเชื้อ สมชายเครียดมาก ถ้าดูจากไทม์ไลน์ จะเห็นว่า ก่อนวันที่จะไปตรวจ เขาเพิ่งกลับบ้านที่ตรังเพื่อยื่นเอกสารผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร เขากลัวและเครียดว่าจะเอาเชื้อไปติดพ่อแม่ด้วยหรือไม่ สมชายบอกว่า ตอนนั้นทุกข์ใจมากจริงๆ เพราะแม่มีโรคประจำตัวและอายุมากแล้วด้วย

ระหว่างนั้น อาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ได้ช่วยประสานงานแจ้งข่าว และติดต่อทุกคนที่ใกล้ชิดให้ไปตรวจหาเชื้อ และเมื่อทุกคนไปตรวจแล้วไม่พบเชื้อ สมชายถึงได้โล่งใจ แต่ก็ใช้เวลาหลายวัน กว่าที่เขาจะหายเครียด ไม่สบายใจเลยตั้งแต่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ และอาจแพร่สู่คนอื่นได้

เตือนเพื่อนวัยรุ่น ระวังติดเชื้อเพราะประมาท

ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องเก็บตัว ไม่สังสรรค์ ใส่หน้ากาก ล้างมือ และรักษาระยะห่างเวลาอยู่นอกบ้านกันเกือบทุกคน

สมชายอยากเตือนเพื่อนๆ ทุกคนว่า วัยรุ่นหรือนักศึกษาอย่างเขา ถึงจะแข็งแรง แต่ต้องไม่ประมาทเด็ดขาด ความคิดชั่ววูบแค่การไปนั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูง อย่าคิดว่าเล็กๆ น้อยๆ มันอาจกลายเป็นสาเหตุให้ติดเชื้ออย่างเขาได้

"สิ่งที่เรียนรู้จากการติดเชื้อครั้งนี้คือ ความประมาท ทำให้เราติดเชื้อ และส่งผลให้เกิดความเครียด ความกังวล และเป็นทุกข์อย่างยิ่ง หากเราเป็นสาเหตุให้คนใกล้ตัว ครอบครัว และเพื่อนฝูง ต้องติดเชื้อไปด้วย โดยที่เราไม่รู้ตัว และไม่ได้ตั้งใจ"

ชีวิตในโรงพยาบาล ได้รู้จักกับฮีโร่ตัวจริง

​รักษาโดยการกินยาต้านไวรัส แล้วก็ยาตามอาการที่เราเป็น หลักๆ มี 5 ชนิด ซึ่งเขาจำชื่อไม่ได้

สมชายเรียกคุณหมอและพยาบาลเป็นฮีโร่ เขายืนยันอีกเสียง ในฐานะคนไข้ที่อยู่ใกล้ชิด ว่าหมอและพยาบาลทำงานหนักมากจริงๆ

เขาติดเชื้อเพราะประมาทในการสังสรรค์กับเพื่อน ทำให้เป็นภาระให้กับหมอและพยาบาลต้องมาตามรักษา แต่หมอกับพยาบาลทุกคนที่ดูแลเขา มีแต่คำพูดที่สุภาพ และใจดี ใจเย็น ในการให้คำแนะนำ รวมถึงให้การรักษาเป็นอย่างดี "พวกเขาคือฮีโร่ของผม"

เตรียมฟิตร่างกายรอบริจาคพลาสมา

​สมชายรู้ข่าวจากทางมหาวิทยาลัยว่า หลังจากที่รักษาหาย พลาสมาของเขาสามารถนำไปช่วยรักษาผู้ป่วยคนอื่นได้ เขาจึงพยายามฟื้นตัวให้แข็งแรงเร็วที่สุด

หลังจากที่ครบกำหนดกักตัวและตรวจเชื้อไม่พบอีก สมชายจะรีบเดินทางไปบริจาคทันที เพราะอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะมอบอาวุธให้กับฮีโร่ และช่วยชีวิตผู้โชคร้ายที่ติดเชื้อได้

ความในใจที่อยากฝากไว้

สมชายกล่าวขอโทษทุกคน ที่ทำให้กังวลและเครียดในช่วงที่เขาติดเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการ

"ผมไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนั้นผมติดเชื้อมาแล้ว และคงไม่มีไครอยากเป็น รวมถึงตัวผมเองด้วย พอรู้ข่าวว่าทุกคนที่ใกล้ชิดไม่มีใครติดเชื้อจากผม ก็รู้สึกดีใจแล้วก็โล่งใจมาก"

สมชาย กล่าวขอบคุณทุกกำลังใจจากคณะครูอาจารย์ บุคลากรทุกท่าน ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันประสานงาน และดำเนินงานทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั้งมหาวิทยาลัย และยังส่งกำลังใจมาให้เขาตลอด ซึ่งเขาได้อ่านทุกข้อความ

บทเรียนจากประสบการณ์โควิด 19

"​สำหรับผม โควิด19 มันน่ากลัว แต่ประสบการณ์ในครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่า ผมไม่ได้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง อย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ว่า ยังมีคนเป็นห่วงเรา ยังมีคนที่คอยให้กำลังใจเราอยู่นะ"

สมชาย กล่าวว่า โรคนี้ก็น่ากลัวมาก โดยเฉพาะกับคนสูงอายุ ร่างกายไม่แข็งแรง ภูมิต้านทานไม่ดี มีโรคประจำตัว ถ้าคนเหล่านี้ติดเชื้อโควิด 19 ก็จะอันตรายมาก

ส่วนตัว เขาคิดว่าอาจจะเป็นความโชคดี ที่ร่างกายยังแข็งแรงอยู่  รู้ตัวเร็ว รักษาเร็ว เอาข้อมูลไปบอกต่อคนอื่นได้เร็ว แต่เขาก็ไม่อยากให้คนอื่นประมาท อยากให้ทุกคนดูแลตัวเองกันดีๆ แบบจริงจัง อย่าต้องมาติดเชื้อโควิด 19 เหมือนเขา

"เพราะคุณอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนผม"

​สมชาย ทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกคน สู้ๆ สู้ต่อไป สู้เพื่อคุณหมอ สู้เพื่อคุณพยาบาล และสู้เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน อยู่บ้าน อยู่เพื่อตัวเอง อยู่เพื่อคนที่คุณรัก แล้วก็ อยู่เพื่อทุกๆ คนที่รักเรา ถึงอาจจะเหงาหน่อย เบื่อหน่อย แต่ก็ดีกว่าต้องมาเบื่อ และเหงาอยู่โรงพยาบาลแน่นอน