Schizophrenia หรือ โรคจิตเภท สามารถรักษาหายได้ ด้วยการใช้ยา ฟื้นฟูสภาพจิตใจ และสังคมด้วยการทำจิตบำบัด รวมถึงรักษาด้วยไฟฟ้าซึ่งใช้ในผู้ป่วยบางรายเท่านั้น
วันโรคจิตเภทโลก ตรงกับวันที่ 24 พฤษภาคม โรคจิตเภท หรือ SCHIZOPHRENIA นี้ แท้จริงแล้วสามารถรักษาให้หายได้ เรามาทำความรู้จักกับอาการ และวิธีรักษากัน
ทำความรู้จักกับ โรคจิตเภท
โรคจิตเภท เป็นโรคที่มีความผิดปกติทางความคิด บุคลิกภาพ มีความผิดปกติด้านการรับรู้ไม่ตรงกับความเป็นจริง ที่มีลักษณะเฉพาะเป็นแบบจำเพาะ และอารมณ์เป็นแบบไม่เหมาะสม หรือ Blunted สติสัมปชัญญะ เชาวน์ปัญญามักดีอยู่ แม้ว่าจะมีการสูญเสียการรับรู้ ส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การดูแลตัวเอง การใช้ชีวิตในสังคม
ผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มมีอาการเมื่ออายุประมาณ 14-16 ปี ซึ่งโรคนี้พบได้ประมาณ ร้อยละ 1 ของประชากร โรคนี้มีอาการโดดเด่น 4 อย่าง ได้แก่ หลงผิด ประสาทหลอน พูดคุยไม่รู้เรื่อง หรือมีพฤติกรรมท่าทางแปลกๆ แต่งกายไม่เหมาะสม แต่อาการเหล่านี้สามารถรักษาให้หายได้ หากพบแพทย์เร็วและได้รับการดูแลฟื้นฟูที่ถูกต้องและเหมาะสม
ลักษณะอาการ
ความคิด ความหลงผิด หรือ Delusion ที่พบบ่อย เช่น คิดว่ามีคนปองร้าย คิดว่าตนเองถูกควบคุมจากอำนาจภายนอก คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่ มีอำนาจหรือ ความสามารถพิเศษ
การรับรู้ อาการประสาทหลอน ทางด้านต่างๆ ที่พบบ่อย คือ หูแว่ว ได้ยินเสียงคนพูดว่า หรือให้ทำตาม หรือไม่มีความหมาย
การสื่อสาร พูดสับสน ไม่ปะติดปะต่อ เปลี่ยนเรื่องพูดเร็ว ไม่เชื่อมโยง หรือบางรายพูดน้อย ไม่ค่อยตอบคำถาม
พฤติกรรม ผิดจากเดิมเคยเป็น เช่น สกปรก วุ่นวาย ตะโกน โดยไม่มีอะไรกระตุ้น พลุ่งพล่าน กระวนกระวาย บางรายขาดความกระตือรือร้น เฉื่อยชา เก็บตัว นั่งเฉยๆ นานๆ ไม่สนุกสนาน
อารมณ์ แสดงอารมณ์ลดลงมาก หน้าตาเฉยเมย ไม่สบตา
การรักษา
การดูแลที่เหมาะสมต่อผู้ป่วย ควรดูแลแบบไหน
แม้ว่าธรรมชาติของโรคจิตเภทส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรื้อรัง แต่หากสามารถดูแลให้ผู้ป่วยได้ปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ จะทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น ไม่มีอาการกำเริบ มีโอกาสหายสูง รวมถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย
ข้อมูลจาก กรมสุขภาพจิต และ ศูนย์พัฒนาชีวิตผู้ป่วยจิตเวช บ้านสวนสายใย-ก้อนแก้ว