เอกพันธ์แจ้งเงินช่วยกิตติหาย8หมื่น อดีตเมียรับนำใช้หนี้

นายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ เดินทางไปเยี่ยมนายกิตติ ก่อนไปลงบันทึกประจำวัน เรื่องเงิน หายไปจากบัญชี 80,000 บาท อดีดเมียรับ เป็นคน กดเงินออกไป ใช้หนี้ และใช้จ่าย บางส่วนคืนให้กับ คนที่โอนมาให้

ที่โรงพยาบาลไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมนายกิตติ กลิ่นเกลี้ยง อดีตดาวร้ายที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ต่อมาได้ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ได้เข้ารักษาตัวที่ รพ.ไทรน้อย อาการของพี่กิตติตอนนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีเจ้าหน้าที่ รพ.ไทรน้อย ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด

โดย นายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ กล่าวว่า สภาพจิตใจ ของพี่กิตติ ขณะนี้ดีขึ้นมาก ใบหน้าสดใสขึ้น ต่างกับวันแรกที่ พบ และ ในวันจันทร์ที่ 13 พ.ย. นี้ จะพาพี่กิตติไปรักษาตา ที่มีที่โรงพยาบาล หู ตา คอ จมูก ซึ่งเป็นหมอเฉพาะทาง ย่านตลิ่งชัน โดยให้ทางโรงพยาบาลจัดทีมแพทย์และพยาบาลเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ส่วนค่าใช้จ่ายทางมูลนิธิร่วมกตัญญูจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

ต่อมานายเอกพันธ์ พบ ร.ต.อ.พันธ์พัฒน์ เศษบุษผา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวัน ไว้เป็นหลักฐาน เรื่องจำนวนกว่า 80,000 บาท ในบัญชีของ นายกิตติ ซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนโอนเข้ามาในบัญชี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปทุมธานี ของนายกิตติเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของการรักษาตัวจากอาการป่วยดังกล่าว แต่กลับมีการเบิกถอนโดย น.ส.ศศิประภา ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของกิตติ เอง โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่อย่างใด

ต่อมา น.ส.ศศิประภา รุ่งมงคล อายุ 28 ปี หรือ คิตตี้ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกรณีเงินจำนวนดังกล่าว ว่านำเงินดังกล่าวไปใช้หนี้และใช้จ่ายภายในครอบครัวรวมถึงจ่ายค่างวดรถจักรยานยนต์ที่ติดค้างชำระก่อนหน้านี้ และยังนำเงินไปคืนคนที่โอนเงินเข้ามาด้วย ที่หาว่าตนเองหลอกลวง ก็โอนคืนเขาไป และยินยอมที่จะชดใช้เงินคืน นายกิตติ โดยผ่อนชำระให้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ นายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ และ น.ส.ศศิประภา รุ่งมงคล ทั้งสองฝ่ายไว้เป็นหลักฐาน และจะทำการสอบปากคำนายกิตติเพิ่มเติมว่ามีความประสงค์ที่จะดำเนินคดี หรือไม่