ระบาดจริง! กรมควบคุมโรคแจงพบหวัดนกโผล่อีสานเมื่อปี 60
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยอมรับพบการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดนกระบาด แต่เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2560 และจัดการเรียบร้อยแล้ว
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดกระแสข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในหลายจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ จ.นครราชสีมา แต่ไม่มีการประกาศให้ประชาชนรับทราบ สร้างความวิตกกังวลให้สังคมอย่างมาก
วันที่ 26 มี.ค.61 ล่าสุด นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลาย ปี 2560 ซึ่งมีการจัดการเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่า จะมีคนป่วยหวัดนก หรือ มีการระบาดในคนขณะนี้ ส่วนการประกาศโรคระบาดในสัตว์ เรื่องนี้ มีกระบวนการและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา อาทิ มีความปลอดภัยกับประชาชนหรือไม่ กระทบกับสังคมหรือกระทบเศรษฐกิจหรือไม่ ซึ่งน่าเห็นใจกรมปศุสัตว์ เพราะต้องดูหลายมิติ
ขณะที่ นพ.ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา ระบุว่า ขณะนี้ในพื้นที่ไม่มีรายงานการพบเชื้อไข้หวัดนกระบาดแต่อย่างใด เชื่อว่าน่าจะเป็นการนำข่าวเก่ามาเล่าใหม่ เนื่องจากเมื่อปี 2560 เคยมีรายงานการตรวจพบเชื้อไข้หวัดนก ในสัตว์ประเภทชะมด คาดว่า ติดเชื้อมาจากอาหารของสัตว์ที่เข้ามาภายในสวนสัตว์ อย่างเช่น เนื้อไก่ แต่ทางสวนสัตว์นครราชสีมา ได้ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ ทำการกำจัดและควบคุมเชื้อจนหายไปหมดแล้ว จึงขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสบายใจได้
ด้าน นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวต่างๆ และขอให้มั่นใจว่า กรมปศุสัตว์ มีมาตรการเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มงวด โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์สนธิกำลังกับอาสาปศุสัตว์ทุกจังหวัด ลงพื้นที่ติดตามและป้องกันโรคในระดับหมู่บ้านพร้อมรณรงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในจุดที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกเป็นประจำให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ แม้ว่าไทยจะไม่เคยตรวจพบโรคนี้มากว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2552 แต่กรมปศุสัตว์ ยังคงมาตรการต่างๆไว้อย่างเข้มแข็งต่อไป ในส่วนการบริโภคสินค้าจากสัตว์ปีก ขอให้เชื่อมั่นว่ามีความปลอดภัยสามารถบริโภคได้
ส่วน ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หน่วยงานรัฐไม่ควรปกปิดข้อมูล เพราะเป็นเรื่องสำคัญควรแจ้งให้ประชาชนรับทราบ หากมีสัตว์ป่วยและตาย อาจเอาไปชำแหละและกินต่อได้
ทั้งนี้ สาเหตุการปกปิดข้อมูล เพราะมีการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเปิดเผยข้อมูล และกลัวจะส่งไก่ดิบออกนอกประเทศไม่ได้ โดยประเมินเป็นมูลค่าแสนล้าน ซึ่งอาจทำความเสียหายให้บริษัทเอกชนที่ส่งออกรายใหญ่ของประเทศไทย จะเทียบกันไม่ได้เลยกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วประเทศไทย และลามไปทั่วโลก
