รองประธานมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นกรณีหน่วยงานยึดลิง 2 ตัวจากหญิงที่นำมาเลี้ยงกว่า 4 ปี ว่าหน่วยงานไม่ควรผลักดันลิงพิการเข้าป่าและควรเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันนี้(8พ.ค.)จากกรณีนางลักขณา ชลานนท์ไพศาล หรือป้าไก่ ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดำเนินการเอาผิดฐานครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังนำลิงแสมและลิงกังมาเลี้ยงดูที่บ้านพัก ซึ่งไม่ได้มีเจตนาหวังผลประโยชน์นั้น
นายสัตวแพทย์ ชิษณุ ติยะเจริญศรี รองประธานมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อป้องกันการถูกดำเนินคดี หากผู้ใดพบสัตว์ป่าที่ถูกทารุณหรือมีบาดแผลหรือพิการ สิ่งแรกที่ต้องทำควรส่งให้สัตวแพทย์รักษาโดยด่วน แล้วจึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจเพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
แต่จากกรณีของนางลักขณาที่เลี้ยงลิง 2 ตัวนี้ มานานกว่า 4 ปีแล้ว ลิงจะมีความคุ้นเคยกับคนมากกว่าเข้าไปอยู่ในป่า อีกทั้งลิงมีความพิการต้องดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด
หากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะผลักดันลิงเข้าป่า ควรเป็นสัตว์ที่มีร่างกายแข็งแรง ไม่มีความพิการ และมีความคุ้นชินกับธรรมชาติเป็นอย่างดี โดยจะต้องผ่านการตรวจและกักกันโรคให้เรียบร้อย
นายสัตวแพทย์ ชิษณุ ยังกล่าวอีกว่า ในการยึดลิงที่นางลักขณาเลี้ยงไปดูแลนั้น หน่วยงานต้องประเมินว่าสามารถเลี้ยงดูได้อย่างถูกวิธี เช่น ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงแต่ละ รวมถึงจัดหากรงใหญ่เพื่อให้สัตว์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี