ศาลฎีกาพิพากษายืน ยกฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม และพวก ร่วมกันอุ้มฆ่า นายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวรี่
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 712 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาฎีกาคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีต ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมช่าย จูสนิท พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐาน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ฯ
กรณีเมื่อระหว่าง 12-15 ก.พ.53 ติดต่อกัน จำเลยทั้งห้า ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้สืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายนักการทูตซาอุฯ ก่อนที่พวกจำเลยจะร่วมกันลักพาตัวนายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวรี่ นักธุรกิจชาวซาอุฯ ซึ่งประกอบธุรกิจจัดส่งแรงงานไทยไปประเทศซาอุฯ เนื่องจากพวกจำเลยเข้าใจว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนักการทูตซาอุฯ และได้มีเจตนาฆ่านายโมฮัมเหม็ด และนำศพไปซ่อนเร้น ทำลายศพ โดยการเผาทำลายที่ไร่ในพื้นที่ ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อปิดบังการตาย ซึ่งศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง
โดยศาลฎีกา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานคือ พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานในคดีอ้างถึงพยานวัตถุที่เป็นแหวน ซึ่งพันตำรวจโท สุวิชชัย อ้างว่า เป็นแหวนประจำตัวนายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวรี ใช้เป็นข้อต่อสู้ ในการยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การสับสน ขัดกับคำให้การเดิม มีลักษณะต่อรองผลประโยชน์เพื่อให้หลุดพ้นคดี จึงรับฟังไม่ได้ อีกทั้งวัตถุพยาน ซึ่งพ.ต.ท.สุวิชชัย อ้างว่า เป็นของนายโมฮัมเหม็ดอัลรูไวรี ที่พบในก้นถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ที่ใช้เผาศพนายอัลรูไวรี ภายในไร่มัน ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ไม่พบร่องรอยการเผาไหม้หรือหลอมละลาย อีกทั้งญาติสนิทของนายอัลรูไวรี ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นแหวนของนายอัลรูไวรี ศาลอาญาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง
หลังฟังคำพิพากษา พล.ต.ท. สมคิด จำเลยที่ 1 กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการต่อสู้คดีนานกว่า 10 ปี ชีวิตราชการถูกกล่าวหามาโดยตลอดว่าฆ่าคนตาย แต่มาในวันนี้ พ้นข้อกล่าวหาแล้ว พร้อมระบุว่า พนักงานสอบสวนของดีเอสไอและอัยการ มีการสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา เพื่อใส่ร้ายพวกตนทั้ง 5 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการยื่นฟ้องไปแล้ว สำนวนอยู่ที่ ป.ป.ช. แต่หลังจากนี้จะดำเนินการยื่นฟ้องพนักงานอัยการในคดีนี้เพิ่มเติม