svasdssvasds

พลังประชารัฐ เหนื่อยไม่แพ้ปชป.-พท.

พลังประชารัฐ เหนื่อยไม่แพ้ปชป.-พท.

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

เปิดตัวได้ยิ่งใหญ่สมใจนึกแค่ไหน สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นอยู่กับว่า เป็นมุมมองของใคร

ถ้าจากคนในรัฐบาล และคนที่ร่วมขับเคลื่อนเพื่อนำพาพรรคไปแข่งกับพรรคอื่น เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง อาจมองว่าไม่ธรรมดา ทั้งจำนวนคนที่มาร่วม และจำนวนนักการเมืองที่ร่วมเปิดตัวกับพรรค

แต่ถ้ามองในมุมฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะเพื่อไทย และแนวร่วมคนเสื้อแดง จะไปในทางตรงกันข้าม คือทำได้แค่นี้หรือ

ขณะที่ฝ่ายอื่นๆ ก็สามารถมองได้เช่นกันว่า ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่มากนัก แต่ขาดจุดเด่น คือตัวแม่เหล็กไม่ค่อยจะมี

เป็นเพียงตัวแทน"บิ๊กตู่"จากครม.ไม่กี่คน ซึ่งแทบทั้งหมดเชี่ยวชาญงานด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก

ขณะที่นักการเมืองที่ไปร่วมเปิดตัว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งเป็นขาประของการโยกย้ายพรรค คุ้นชินกับเรื่องการดูดเป็นอย่างดี และบางส่วนก็ปรากฎเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ ว่าจะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว

ยิ่เมื่อดูจากกรรมการพรรคชุดแรก 25 คน ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แตกต่างจากการตั้งพรรคการเมืองอื่นๆ คือมีตัวแทนจากกลุ่มก๊วนต่างๆชัดเจน

นอกจากตัวแทนจากรัฐบาล โดยเฉพาะ 4 รัฐมนตรีแล้ว มีตัวแทนจากกลุ่มสามมิตรสายสมศักดิ์ เทพสุทิน คืออนุชา นาคาศัย และสายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คือพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ หลานชาย

สายประชาธิปัตย์เก่า ณัฐพล ทีปสุวรรณ อดีตผอ.ปชป. สายพรรคพลังชล อิทธิพล คุณปลื้ม สายอีสานโคราชจากตระกูลรัตนเศรษฐ์ของวิรัช รัตนเศรษฐ สายข้าราชการประจำ วิเชียร ชวลิต อดีตปลัดมหาดไทยและกระทรวงพัฒนาสังคม หรือ พม.

หรือแม้แต่ตัวแทนจากลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ ไทยเบฟเวอเรจ หรือค่ายตราช้าง

เรียกว่าครบครันไม่น้อย ทั้งคน ทั้งดีกรี และทุน

แต่ปัญหาของพรรคพลังประชารัฐนับจากนี้ จะมี 2-3 เรื่องใหญ่ๆให้ได้ออกแรงแสดงฝีมือ

อย่างแรกคือแรงเสียดทานบนเวทีการเมือง เพราะต้องเผชิญหน้ากับนักการเมืองทั้งประเภทเก๋าเกม และประเภทดาวรุ่งพุ่งแรง การจะสามารถรับมือจึงต้องขึ้นอยู่หลายปัจจัย รวมทั้งอารมณ์และต้องนิ่งพอ ซึ่งจะรวมทั้งเรื่องประชันวิสัยทัศน์ หรือประทะคารมตามเวทีสาธารณะ หรือเวทีแสดงวิสัยทัศน์ผู้นำจากพรรคการเมืองต่างๆ

เรื่องถัดมาคือการคุมเกมและจัดระเบียบคนในพรรค ซึ่งจะไม่ต่างจากลักษณะ"จับปูใส่กระด้ง" เพราะนักการเมืองจะต้างจากข้าราชการประจำ คือปากมักอยู่ไม่สุข ชอบโปรโมทวิสัยทัศน์ตนเอง บางเรื่องจะอ้างเรื่องความต้องการของประชาชน พรรคการเมืองไทยจำนวนไม่น้อย ที่เกิดปัญหาขัดแย้ง ขาดความเป็นเอกภาพเพราะเรื่องเหล่านี้มานักต่อนัก

เรื่องที่ 3 ซึ่งจะหนักหน่วงที่สุด คือการเป็นเป้า"หมู่บ้านกระสุนตก"กรณีให้ลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีของแกนนำพรรคที่มีตำแหน่งและนั่งควบอยู่ในครม. เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และเอาเปรียบคู่แข่งจากพรรคการเมืองอื่น โดยใช้ความเป็นรัฐบาล เอื้อประโยชน์ใส่ตนและพรรคพวกได้

จะเห็นได้ว่า ประเด็นนี้ ผู้บริหารตำแหน่งสำคัญๆ โดนกระทุ้งตั้งแต่ผลการเลือกกรรมการบริหารพรรคออกมา โดยมีรัฐมนตรีถึง 4 คน นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายคน มีตำแหน่งทางการเมืองพ่วงท้ายอยู่

การขับเคลื่อน หรือผลักดันกฎหมายหรือผลักดันโครงการ หรือแม้การเดินสายประชุม ครม.สัญจร ย่อมหลีกหนีไม่พ้น จะถูกตั้งข้อสังเกตุ หรือวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการใช้โครงการหรืองบของรัฐในลักษณะการหาเสียงเพื่อหวังผลเลือกตั้ง

หลังจาก"บิ๊กตู่"เอง ก็โดนไปก่อนแล้ว เรื่องยอมรับว่าสนใจงานการเมือง แต่ไม่ยอมออกจากเก้าอี้หัวหน้า คสช.ซึ่งเปรียบเสมือน ต้องการเป็นทั้งกรรมการและผู้เล่นในเวลาเดียวกัน

ดังนั้น ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน พรรคพลังประชารัฐ และผู้บริหารพรรคชุดแรกเหนื่อยแน่ๆ ไม่ต่างจากพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์

เพราะต้องทำทุกอย่างเพื่อชนะ ตามเป้าหมาย!

 

ประจักษ์ มะวงศ์สา

related