คนในข่าว ยุทธ์ ตู้เย็น โผล่มีชื่อแกนนำพรรคเพื่อชาติ

ไม่เพียง รื้อฟื้นพรรคเพื่อธรรม กลับมาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางเลือก ของขั้วพรรคเพื่อไทย ที่ยังไม่ชัดเจนว่า จะเพื่อรองรับการย้ายพรรคของอดีต ส.ส.เพื่อไทย กรณีถูกยุบ หรือเพื่อแยกกันเดิน ร่วมกันตี

โดยมีสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นักการเมืองอาวุโส อดีตหัวหน้ากลุ่ม 16 อันลือลั่นในอดีต นั่งเป็นหัวหน้าพรรค และมีพงศกร อรรณนพพร อดีตรัฐมนตรีช่วยศึกษาฯ อดีต ส.ส.ขอนแก่น เป็นเลขาธิการพรรคเท่านั้น

ยังมีชื่อพรรคเพื่อชาติ ปรากฏบนหน้าสื่อ ว่าจะเป็นอีกหนึ่งพรรค ที่จะถูกปัดฝุ่นรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ขณะที่บางสำนัก รายงานแล้วว่า กลุ่มอดีต ส.ส.ที่เดินทางไปฮ่องกง รองรับทริปล่าสุดของ 2 ศรีพี่น้อง”ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” นอกจากจะเป็นแกนนำจากพรรคเพื่อไทย และเพื่อธรรมแล้ว ยังระบุแกนนำจากพรรคเพื่อชาติ พ่วงรวมอยู่ด้วย โดยอ้างว่า เป็นยงยุทธฺ ติยะไพรัช คนดังแห่งจังหวัดเชียงราย

ว่ากันว่า พรรคเพื่อชาติ ได้มีการยื่นเรื่องจัดตั้งกับ กกต.มานานพอสมควรแล้ว บางกระแสแจ้งว่า ผู้ที่ยื่นทะเบียนสำรองไว้ คือนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ บอสใหญ่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล

ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่านพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษาส่วนตัวด้านกฏหมายของทักษิณ ชินวัตร ถูกมอบหมายให้นำทัพพรรคนี้ แต่เจ้าตัวปฏิเสธและอ้างว่าไม่ได้ติดต่อกับทักษิณได้ระยะหนึ่งแล้ว ก่อนจะมีชื่ออดีต ส.ส.หลายสมัย จังหวัดเชียงราย เข้ามาแทนที่

ยงยุทธ์ เป็นชาวเชียงรายโดยกำเนิด เกิด 3 เมษายน 2504 เริ่มจากเป็นนักธุรกิจด้านสินค้าเกษตรในพื้นที่ ก่อนก้าวเข้าสู่เวทีการเมือง ได้เป็น ส.ส.ครั้งแรกเมื่อปี 2538 ในสังกัดพรรคเอกภาพ ปี 2539 ย้ายไปอยู่พรรค ประชาธิปัตย์ ได้เป็น ส.ส.สมัยที่ 2 พร้อมๆกับได้เป็นหนึ่งในคนใกล้ชิด”เสธ.หนั่น”พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่จัดส่งคอมมานโดไปกำหราบกำนันผู้ใหญ่บ้าน และผู้มีอิทธิพลในจังหวัดต่างๆ รวมทั้งที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งขณะนั้น กำลังแผ่อิทธิพลเติบใหญ่กันหลายคน โดยมีนักการเมืองระดับชาติ สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

ปี 2544 ย้ายไปอยู่พรรคไทยรักไทย พร้อมบารมีที่เบ่งบาน ในฐานะหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กวาดที่นั่งในเชียงรายและใกล้เคียงได้ราบคาบ หลังเลือกตั้งปี 48 ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯ พร้อมจุดหักเหครั้งสำคัญในชีวิตการเมือง

นอกจากขานรับนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล แต่ข้อมูลผิดพลาด กรณีประสานตำรวจกองปราบฯ ให้นำคอมมานโดไปปิดล้อม ก่อนเปิดฉากยิงถล่มใส่บ้านของสองสามีภรรยาตระกูล ศตะกูรมะ ที่ตำบลเชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จนทั้งบ้านและตู้เย็นเต็มไปด้วยร่องรอยของกระสุนปืน จนนำไปสู่ฉายา “ยุทธ์ ตู้เย็น”แล้ว

ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง การจัดตั้งลูกจ้างของกรมป่าไม้กรณีปะทะกับผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สวนลุมพินี เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2549 และหลังเหตุการณ์ รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 คณะรัฐประหาร คปค.ได้ออกคำสั่งเรียกเขาและเนวิน ชิดชอบ ในฐานะผู้ใกล้ชิดทักษิณในขณะนั้น ไปรายงานตัว

หลังเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2550 คล้ายจะเริ่มได้ดีอีกครั้ง เมื่อวันที่ 21 มกราคม ปีถัดมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเลือกเขาเป็นประธานสภาฯ ผู้แทนราษฎร แต่ถัดมาแค่เดือนเดียว 26 กุมภาพันธ์ กกต. ลงมติให้ใบแดงแก่ ยงยุทธ เนื่องจากถูกร้องเรียนทุจริตเลือกตั้งที่จังหวัดเชียงราย ตามมาด้วยพรรคพลังประชาชนถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค และตัดสิทธิ์ กรรมการบริหารพรรค 5 ปี รวมทั้ง”ยุทธ์ ตู้เย็น”ด้วย

จากนั้น ชื่อและข่าวคราวของเขา ก็ค่อยๆจางหายไป มีปรากฏเป็นครั้งคราวว่าไปศึกษาต่อ นอกจากนี้ ยังมีบางกระแสรายงานว่า เขามักเดินทางไปพบทักษิณ อยู่เนืองๆ

ก่อนจะกลับมาเป็นข่าวดังกับพรรคเพื่อชาติ แต่ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนจากเขาอีกชั้นหนึ่งก่อน