"ลิปตพัลลภ" กลับกุมบังเหียนชาติพัฒนา -ชูคำ "น้าชาติ" โนพร๊อพเบลม ดึงคน

ถึงจะช้ากว่าใครเพื่อน แต่พรรคชาติพัฒนากลับมาด้วยความฮือฮา กระตุ้นทั้งคอการเมืองพันธุ์แท้ และกระตุ้นคนโคราช ให้คึกคักและหันกลับมาจับจ้องพรรคชาติพัฒนาอีกหน

เพราะถึงแม้นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกฯ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย และอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา จะไม่ได้กลับมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคอย่างที่มีกระแสเรียกร้องจากทั้งแกนนำพรรคและสมาชิก เพื่อให้เข้ามาช่วยกอบกู้สถานการณ์ของพรรคที่กำลังถดถอยและอาจถึงขั้นสูญพันธุ์ไปจากสาระบบการเมืองได้

แต่นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีต ส.ส.หลายสมัย น้องชายนายสุวัจน์ ก็ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ของพรรค ให้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เท่ากับคนในตระกูล "ลิปตพัลลภ" ที่เคยร่วมสร้างพรรคชาติพัฒนามากับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีจากโคราช ได้หวลกลับไปคุมบังเหียนเป็นผู้บริหารเบอร์ 1 ของพรรคชาติพัฒนาอีกครั้งแล้ว

และก่อนหน้านี้ ปฏิเสธกันไม่ได้ว่า พรรคชาติพัฒนาถือเป็นมรดกทางการเมืองของ "น้าชาติ" ที่คนโคราชภาคภูมิใจ เห็นได้จากตั้งแต่สมัยเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทย "น้าชาติ" ก็แทบจะนำทีมกวาด ส.ส.โคราชอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ปี 2531 ที่กวาด ส.ส.ทั่วประเทศได้มากที่สุด และส่งผลให้ "น้าชาติ" ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หลัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประกาศ "ป๋าพอแล้ว" ปฏิเสธที่จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เป็นปีที่ 9

เช่นเดียวกับการเลือกตั้ง ปี 2535/2 ในเดือนกันยายน หลัง พล.อ.ชาติชาย หนีกระแสพรรคเทพ-พรรคมาร ไปตั้งพรรคชาติพัฒนา ก็สร้างปรากฏการณ์ "ฟีเวอร์" ถึงขั้นเกือบเหมา ส.ส.ทั้งโคราช เหลือเผื่อให้พรรคการเมืองอื่นแค่ที่นั่งเดียว

พูดถึง "น้าชาติ" คอการเมืองยุคนั้น ต้องนึกถึงภาพเขาคาบซิกการ์มวนใหญ่ ขับขี่มอเตอร์ไซค์คันโต / นึกถึงนโยบาย เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า /นึกถึงการตัดถนน 4 เลนสายแรกในต่างจังหวัดเข้าสู่ตัวเมืองโคราชและเป็นประตูสู่อีสาน / นึกถึงโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออก หรืออีสเทิร์นซีบอร์ด

และต้องนึกถึงวลีเด็ด “โน พร๊อพเบลม ไม่มีปัญหา ๆ”

ความผูกพันระหว่าง "น้าชาติ" กับพรรคชาติพัฒนา จึงแทบจะแยกกันไม่ออก อย่างที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการ “สมาคมข่าวเช้า” ทาง NOW 26 ว่า กลิ่นไอของพรรคชาติพัฒนาคือกลิ่นไอของ "น้าชาติ" ดังนั้น คาแร็คเตอร์ของพรรคชาติพัฒนา จึงเป็นเหมือนคาแร็คเตอร์ "น้าชาติ"

พรรคชาติพัฒนาภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จึงไปดึงกลิ่นไอของ "น้าชาติ" มาเป็นสโลแกนสำหรับใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมีขึ้นต้นปีหน้าว่า "พรรคชาติพัฒนา โน พร๊อพเบลม"

เป็นการดึงเอาเอกลักษณ์ของ "น้าชาติ" ที่ผู้คนคุ้นชิน กลับมาใช้ประโยชน์ เพื่อดึงและกระตุ้นความรู้สึกผูกพันแน่นแฟ้นของคนโคราชและแฟนคลับ "น้าชาติ" กับพรรคชาติพัฒนา มาใช้ได้อย่างลงตัว

ไม่เพียงเท่านั้น นายเทวัญยังเตรียมหารือกับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพื่อขอความเห็นชอบในการไปเชื้อเชิญนายสุวัจน์ ให้กลับไปนั่งตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคอย่างเป็นทางการภายในวันสองวันนี้

ขณะที่กรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ ที่เป็นระดับ "เนื้อแท้" ของพรรค ยังอยู่ร่วมหัวจมท้ายอีกหลายคน ทั้งนายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตเลขาธิการพรรค นายประสาท ตันประเสริฐ อดีต ส.ส.หลายสมัยจังหวัดนครสวรรค์ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา เดอะมอลล์ วีซี รวมทั้งผู้มาใหม่ พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก บุตรชาย "บิ๊กซัน" พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก และเป็นอดีต สปท.ด้านการเมือง

ขณะที่เลขาธิการพรรคคนใหม่ นายดล เหตระกูล ยิ่งน่าจับตาเป็นพิเศษ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ น้องชายนายดอม เหตระกูล และเป็นทายาทของนายประชา เหตระกูล แห่งค่ายใหญ่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และนายดลเอง ยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น หรือ ไออาร์ซีพี บริษัทด้านการสำรวจรายใหญ่ที่มีฐานข้อมูลพร้อมสรรพ และเคยผ่านงานการเมืองในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีอุตสาหกรรม สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแล้ว

ยังมีคนรุ่นใหม่ อย่างน้องวิว น.ส.เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโดทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ได้รับเลือกเป็นโฆษกพรรค และจะเป็นแกนนำคนรุ่นใหม่ หรือ NEXT GEN ของพรรคชาติพัฒนาด้วย

จึงเป็นอีกหนึ่งพรรคที่น่าจับตามอง เพราะการหวนกลับมาช่วยพรรคแบบเต็มตัวอีกครั้งของคนอย่างนายสุวัจน์ ย่อมต้องมีเป้าหมายชัดเจนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว

ไม่แคล้ว เป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองที่จะ "รอเสียบ" เข้าร่วมรัฐบาล 100 % เต็ม