svasdssvasds

ศึกชนช้าง พท.-พปชร. คู่ชิงตัวจริงบนสมรภูมิเลือกตั้ง

ศึกชนช้าง พท.-พปชร. คู่ชิงตัวจริงบนสมรภูมิเลือกตั้ง

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

จะเรียกว่าปะทะกันครั้งแรกบนเวทีเลือกตั้ง 62 ก็คงไม่ผิด สำหรับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ที่จะแย่งชิงกันเป็นผู้ชนะศึกเลือกตั้ง และยังจะส่งผลถึงเรื่องแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลด้วย

ระหว่างพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศจุดยืนอยู่คนละฝั่งกับรัฐบาลและ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกจากไม่ร่วม ไม่หนุนแล้ว ยังชัดเจนว่าจะสกัดไม่ให้ “บิ๊กตู่” ชนะเลือกตั้ง กรุยทางขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯอีกสมัย

กับพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศจุดยืนสนับสนุน “บิ๊กตู่”เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศต่อ เพื่อดูและสานต่อผลงานที่ทำไว้

แม้ในช่วงที่ผ่านมา 2 พรรคนี้จะมีเสียงวิจารณ์ กล่าวหาตอบโต้กันไปมาในหลายเรื่อง แต่ยังไม่เคย “ประดาบ”บนเวทีเลือกตั้งเลย เรื่องกรณีการใช้สถานที่ราชการในการพบปะและเปิดเวทีหาเสียงกับประชาชนแบบ 2 มาตรฐาน จึงเป็นเหตุการณ์แรกจริงๆของ 2 พรรคนี้

พรรคเพื่อไทยนำทีมขับเคลื่อนโดย “หญิงหน่อย”สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง ซึ่งครั้งนี้ทำหน้าที่ทั้งผู้นำทัพ และหมู่หมู่ทะลวงฟัน ลุยแหลกในทุกพื้นที่ ทั้งกรุงเทพฯ เหนือ ใต้ อีสาน ไปหมด แถมยังมีลูกล่อลูกชนเป็นที่ถูกอกถูกใจกองเชียร์ไม่ได้ขาด

ล่าสุดคือวลีที่ฮ็อตฮิตไปทั่ว ....“เลือกเรากระเป๋าตุง เลือกลุงกระเป๋าแฟ่บ” ซึ่งพูดในกรุงเทพฯ แต่ดังข้ามไปต่างจังหวัด และฮ็อตฮิตถึงขั้นพรรคนำไปขึ้นป้ายหลังเวทีหาเสียง

ไม่เพียงเท่านั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ยังมีดราม่ากระโดดลงจากดเวทีหาเสียงให้คนฟังด้านล่างคอยรับไว้ ไม่ต่างจากนักร้องซุปเปอร์สตาร์ที่ชอบทำเมื่อมีแสดงคอนเสิร์ต พร้อมเชิญชวนชาวบ้านให้เข้าไปมะรุมมะตุ้มโอบกอดได้

ข้างฝ่ายพรรคพลังประชารัฐก็ใช่ย่อย มีกิจกรรมเคลื่อนไหวให้เป็นข่าวบนหน้าสื่ออยู่เนืองๆ ด้านหนึ่งเป็นเพราะมีรัฐมนตรีในรัฐบาล “บิ๊กตู่”นั่งควบเป็นผู้บริหารพรรคอยู่ด้วย จึงโดนจับจ้องเป็นพิเศษ ท่ามกลางกระแสกดดันให้ลาออกจาก ครม.เพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบ แถมล่าสุด นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ยังเป็นหนึ่งใน 4 รัฐมนตรีที่โดน กกต.ชี้ขาดว่ามีมูลต้องส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด เรื่องขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี กรณีถือครองหุ้นสัมปทานกับรัฐเข้าไปอีก ยิ่งมีแรงบีบเพิ่มขึ้น

พปชร.สร้างความแตกต่างเมื่อสามารถใช้สนามกีฬา 700 ปีจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นของราชการ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2561 ท่ามกลางกองเชียร์แน่นขนัด แถมยังพ่วงการลิงค์สัญญาณถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กจากอีก 4 เวทีสุโขทัย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และนครสวรรค์ เพิ่มความตระการตา

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ตีโพยตีพายกล่าวหาโดนอำนาจรัฐกีดกันแทรกแซง กรณีขอใช้สนามกีฬาขององค์การบริหาร จ.พะเยา อำเภอดอกคำใต้ ได้รับอนุมัติแล้วแต่กลับถูกยกเลิก ไม่สามารถเข้าไปใช้เป็นที่พบปะและหาเสียงกับประชาชนได้ เมื่อ 10 มกราคม 2562 แต่พรรคพลังประชารัฐ กลับสามารถเช่าสถานที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงราย พบปะกับประชาชนและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงรายอย่างยิ่งใหญ่ได้ เมื่อ 13 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา

กรณีนี้ ไม่เพียงพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ที่ถูกมองอย่างกังขา แต่กระแสการใช้อำนาจรัฐ ยังลุกลามขยายไปถึงรัฐบาล “บิ๊กตู่”และฝ่ายความมั่นคง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นอกจากกิจกรรมของพรรคที่มีผู้บริหารสำคัญของพรรคเป็นคนขับเคลื่อนแล้ว พปชร.ยังสร้างความฮือฮาจากการเป็น “หัวหมู่ทะลวงฟัน” ของแกนนำพรรคที่มาจาก “กลุ่มสามมิตร” อีกต่างหาก

ล่าสุด คือการ “ปิ๊ง”ไอเดีย แปลงที่ดิน ส.ป.ก.เป็นโฉนดทองคำ สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ ซึ่งกลายเป็นข่าวใหญ่บนหน้าสื่อ ท่ามกลางเสียงต่อต้านจากหลายภาคส่วน แม้แต่คนในรัฐบาลเอง รวมทั้งนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ ที่ตอกย้ำ กฎหมายปัจจุบันที่มีอยู่ ไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ เว้นแต่เป็นมรดกตกทอด

กระทั่ง “บิ๊กตู่”เอง ยังต้องออกโรงปราม ให้มีการจับตาดูนโยบายต่างๆของพรรคการเมืองว่าทำได้จริงหรือไม่ ในจำนวนนี้ก็รวมทั้งพรรคพลังประชารัฐด้วย

กลายเป็นเรื่อง ผลักดันนโยบายแบบ“ขายฝัน-หาเสียง” ที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาหรือเห็นชอบจากคณะผู้บริหารพรรค พปชร.ไปเลย

อย่างไรก็ตาม การ “ประดาบ”ระหว่าง 2 พรรคใหญ่ เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และจะทวีความเข้นข้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะทั้งคู่ ถือเป็นคู่แย่งชิง ส.ส.ตัวจริงในสนามเลือกตั้ง

และเป็นตัวจริง สำหรับการแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ส.ส.

related