ครม.สัญจรใจป้ำทุ่มงบ 4.3 พันล้าน ไม่ต้องรอเสก ส.ป.ก.
ไม่ต้องรอเสก ส.ป.ก.เป็นโฉนดทองคำ ครม.สัญจรใจป้ำทุ่มงบ 4.3 พันล้าน ต่ออายุเติมเงินบัตรคนจนเฟส 2 อีก 6 เดือน
เป็นไปตามที่มีการคาดหมายก่อนหน้านี้ เมื่อที่ประชุมครม.สัญจร ครั้งที่ 1/2562 ที่จังหวัดลำปาง ได้เห็นชอบขยายเวลามาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 ซึ่งสิ้นสุดโครงการไปเมื่อเดือน ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ให้ต่อออกไปอีก 6 เดือน
คือระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2562 และได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 62 ในส่วนงบกลางฯ วงเงิน 4,370 ล้านบาทเพิ่มเติม เพื่อเติมเงินรายเดือนเข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-มันนี่ ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับใช้ดำเนินการมาตรการขยายระยะเวลาดังกล่าว โดยมีเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการ 4,145,397 คน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล แถลงผลการประชุมครม.สัญจรที่มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง เพิ่มเติมว่า ครม.สัญจรยังมีมติ เห็นชอบเรื่องเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมีการปรับเปลี่ยนการเติมเงินรายเดือนสำหรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคสำหรับผู้เข้าร่วมมาตรการ โดยใช้เงินงบประมาณรายจ่าย ภายใต้กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก
ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ที่ได้รับการเติมเงิน 300 บาท สามารถถอนเงินสดผ่านตู้ ATM และสาขาของธนาคารกรุงไทย ได้ 200 บาท ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่อปีเกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท และได้รับการเติมเงิน 200 บาท สามารถถอนเงินสดได้ 100 บาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน หรือ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน 2562
จากเดิม ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถนำบัตรใช้ซื้อสินค้าได้เฉพาะที่ร้านธงฟ้าประชารัฐเท่านั้น แต่หลักเกณฑ์ใหม่ เปลี่ยนเป็นถอนเงินสดได้ไม่เกิน 200 บาท และ 100 บาทตามลำดับ สามารถนำไปซื้อสินค้าจากร้านอื่นๆไม่จำกัดเฉพาะซื้อของในร้านธงฟ้าประชารัฐเท่านั้น
ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ชี้แจงว่า เป็นไปตามข้อเรียกร้องของผู้มีรายได้น้อย ที่ต้องการจะซื้อสินค้าอื่นๆที่จำเป็นนอกเหนือจากร้านประชารัฐ และจากผลสำรวจของกระทรวงการคลังยังพบว่า ผู้มีรายได้น้อยใช้จ่ายช่วงต้นปีสูง จึงเพิ่มทางเลือก และช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ ส่งเสริมให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ส่วนสาเหตุที่ยังคงให้เหลือจำนวนเงินไว้ส่วนหนึ่ง ไม่ให้ถอนเป็นเงินสดทั้งหมด เพื่อใช้ซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ เนื่องจากยังมีสินค้าของชุมชนที่ขายอยู่ในร้านธงฟ้าฯ อาทิ ไข่ไก่ ข้าวสาร
