4 ตัวเต็งนายกรัฐมนตรี ใครมาวิน-"บิ๊กตู่"มีปัจจัยเสี่ยง (1)

ถึงแม้จะมีหลายพรรคการเมือง ทยอยเปิดตัวบุคคลที่พรรคจะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีกัน โดยต้องส่งรายชื่อต่อกกต.ภายใน 4-8 กุมภาพันธ์ 2562

แต่ส่วนใหญ่ ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นการเสนอชื่อตามสิทธิของพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ และผู้ถูกเสนอชื่อเกือบทั้งหมดเป็นหัวหน้าพรรค

อย่างพรรคอนาคตใหม่ ส่งชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

พรรคเพื่อชาติ มีข่าวจะเสนอชื่อนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรค คนเดียว แม้จะมีข่าวทาบทามพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์ อีกคนก็ไม่แน่ชัด

พรรคชาติไทยพัฒนา เสนอชื่อน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา

พรรคชาติพัฒนา แม้จะยังอุบไม่เปิดเผยตัว แต่น่าจะเป็นคนใดคนหนึ่งในตระกูล ลิปตพัลลภ อาจเป็นนายสุวัจน์ ผู้พี่ หรือนายเทวัญ ผู้น้อง

พรรคไทยรักษาชาติ ก็น่าจะคนใดคนหนึ่ง ระหว่างร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค กับนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง

พรรคภูมิใจไทย ชัดเจนว่าจะเสนอหัวหน้าพรรคนายอนุทิน ชาญวีรกูล คนเดียว

เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อเดียว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค

พรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอครบ 3 ชื่อตามโควต้า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายชัยเกษม นิติสิริ

พรรคประชาชาติ มติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคล่าสุด เสนอ 3 รายชื่อเช่นกัน ทั้งนายวัน มูหะมัด นอร์ มะทา หัวหน้าพรรค พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาฯศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดขายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ในฐานะเลขาธิการพรรค และดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม รองหัวหน้าพรรค

เช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ มีข่าวจะเสนอครบ 3 คนตามโควต้าเช่นกัน ตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายอุตตม สาวนายก หัวหน้าพรรค และดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ถึงวันส่งจริง อาจจะไม่ถึง 3 คนก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีชื่อจากหลายพรรคการเมือง แต่ในทางปฏิบัติ อาจมีเพียงไม่กี่พรรค ที่เสนอชื่อนายกฯ และได้รับการพิจารณาจากที่ประชุมสภาฯ เนื่องจากมีปัจจัยสำคัญที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย นั่นคือต้อง มีส.ส.ไม่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ของส.ส.ทั้งหมดในสภา คือไม่น้อยกว่า 25 คน

เท่ากับพรรคที่จะเข้าเงื่อนไขนี้ ต้องเป็นพรรคขนาดกลางขึ้นไป ซึ่งหากย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งส.ส.ปี 2554 ปรากฎว่ามีเพียง 3 พรรคที่ได้ส.ส.เกินกว่า 25 คน คือพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย

ทำให้มีแนวโน้มว่า เลือกตั้งหนนี้จะมีหลายพรรคการเมืองที่มีโอกาสได้เสนอชื่อนายกฯ แต่อาจไม่ได้รับการพิจารณาจากสภา เพราะมีส.ส.ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

เมื่อพิจารณาจากขนาดของพรรคและความน่าจะเป็น ในการเลือกตั้งส.ส. 24 มีนาคม พรรคแรกที่น่าจะเกินเกณฑ์แน่ๆ คือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในเลือกตั้งส.ส. 4 ครั้งหลังสุด ได้ส.ส.เกินกว่า 100 คนถึง 3 ครั้ง ยกเว้นปี 2548 ที่ได้ ส.ส.เพียง 96 คน

แต่โอกาสของนายอภิสิทธิ์ ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ดูจะมีข้อแม้เงือนไขมากมาย ตั้งแต่ต้องชนะเสียงข้างมาก อย่างน้อยก็ในกลุ่มที่ถูกมองว่าจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ นอกจากนี้ ยังต้องสามารถเจรจาและดึงพรรคการเมืองใหญ่ อย่างน้อย 1 พรรค เข้ามาร่วมสนับสนุน หากไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากมองความเป็นได้แล้ว การร่วมกับพรรคเพื่อไทย มีความเป็นไปได้ค่อนข้างยาก

ส่วนเรื่องจะดึงพรรคพลังประชารัฐมาร่วมตั้งรัฐบาลได้ น่าจะต้องมีข้อแม้ว่า ปชป.ต้องได้จำนวน ส.ส.มากกว่า พปชร.