svasdssvasds

4 ตัวเต็งนายกรัฐมนตรี ใครมาวิน-"บิ๊กตู่"มีปัจจัยเสี่ยง (2)

4 ตัวเต็งนายกรัฐมนตรี ใครมาวิน-"บิ๊กตู่"มีปัจจัยเสี่ยง (2)

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

ขณะที่พรรคเพื่อไทย คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คนใดคนหนึ่ง จะมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งหรือไม่ ก็ต้องขึ้นกับปัจจัยหลายด้าน ไม่ต่างจากนายอภิสิทธ์ เพราะถึงอย่างไร ฝ่ายหนุน"บิ๊กตู่"คงไม่ยอมง่ายๆ ต้องหาทางสกัดไม่ให้กลับเข้ามามีอำนาจรัฐเหมือนก่อน

การออกแบบการเลือกตั้งแบบใหม่ ระบบจัดสรรปันส่วนผสม พรรคใหญ่จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อยลง และเปลี่ยนไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีเป้าหมายหลักอยู่ที่พรรคใหญ่เกินไปอย่างพรรคเพื่อไทย

รวมทั้งการดึงและดูดส.ส.และอดีตส.ส.เข้าพรรคพลังประชารัฐในช่วงที่ผ่านมา ก็เพื่อหวังลดทอนจำนวนส.ส.ของพรรคเพื่อไทยลงเป็นสำคัญ

ไม่นับรวม แต้มต่อจากส.ว.250 คนในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ที่สามารถโหวตเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นตัวช่วย

ดังนั้น แม้พรรคเพื่อไทยอาจชนะเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง แต่อาจไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ เว้นแต่กรณีเดียว คือพรรคพันธมิตรอย่างไทยรักษาชาติ และพรรคพันธมิตรอื่น สามารถชนะเลือกตั้งมีส.ส.รวมกันมากกว่า 376 คน หรือถ้าจะให้ดี มีเสถียรภาพด้วย ก็น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 380-385 คน ซึ่งจะการันตีเสียงข้างมากในสภาฯชนิดที่อุ่นใจได้

ครั้นจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งความจริงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะน่าจะมีส.ส.รวมกันเกินกว่าครึ่งหนึ่งในสภาฯ แต่สูตรนี้ น่าจะเป็นเพียงภาคทฤษฎีเท่านั้น เพราะในทางปฏิบัติ จะเป็นไปได้ยากที่สุด เพราะไม่ต่างจากน้ำกับน้ำมัน ทำอย่างไรก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้

โอกาสของคุณหญิงสุดารัตน์ หรือนายชัชชาติ จึงอาจไม่ต่างจากคำอุปมาอุปไมยที่ว่า "บุญมีแต่กรรมบัง"

ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในสถานะที่มีโอกาสกว่ากว่าใครเพื่อน แม้จำนวนส.ส.อาจจะแพ้พรรคเพื่อไทย แต่ขอให้ชนะพรรคประขาธิปัตย์ให้ได้ เพราะมีเสียงส.ว. 250 คน คอยสนับสนุนเป็นต้นทุนเริ่มต้นให้อยู่แล้ว

เป้าหมายส.ส. 150 คนจึงเป็นตัวเลขที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐคาดหวังเอาไว้ แต่อุปสรรคสำคัญอยู่ที่ จะทำได้หรือไม่

หากทำได้ หรือมีจำนวนส.ส.ที่ใกล้เคียงกับ 150 คน ก็ต้องลุ้นให้พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคทางเลือกอื่นๆ เข้าไปร่วมหนุนตั้งรัฐบาลให้ได้เสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภา

ตรงนี้ถือเป็นโจทย์สำคัญ โดยมีตัวแปรหลักอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์แสดงท่าทีเป็นทางเลือกที่ 3 ไม่หนุนพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเท่ากับมีส่วนในการต่อท่ออำนาจให้กับ"บิ๊กตู่" อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังๆมานี้ ท่าทีของนายอภิสิทธิ์ดูจะเริ่มอ่อนลง ก่อนจะมีเสียงสำทับหนักแน่นออกมาจากแกนนำรุ่นใหม่ อย่างนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตส.ส. 2 สมัย กรุงเทพฯ และอดีตโฆษกรัฐบาลเงา ซึ่งย้ำชัดว่า ปชป.จะไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยในทุกเงื่อนไข

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ หากไม่ขี้โกง และมาตามวิถีทางประชาธิปไตย ก็พร้อมร่วมรัฐบาลด้วย

เท่ากับเปิดไต๋ปชป. พร้อมเป็นพันธมิตรร่วมหนุนพล.อ.ประยุทธ์ ในท้ายที่สุดอยู่แล้ว

โอกาส "บิ๊กตู่"จึงเปิดกว้างมากกว่าใครเพื่อน หนทางสะดวกรออยู่ข้างหน้า แต่จะทำได้สำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ กับพรรคพลังประชารัฐเท่านั้นเอง

related