นายกฯจากไทยรักษาชาติ ปริศนาที่ต้องรอจนนาทีสุดท้าย

อื้ออึงกันชั่วข้ามคืน กับข่าวที่มาจากเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ถึงชื่อบุคคลที่อาจถูกเสนอโดยพรรคไทยรักษาชาติในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ที่บ้างก็ไปวิเคราะห์เจาะลึกกันว่าเป็นชื่อที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องชะลอการเปิดตัวในฐานะ 1 ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ

แต่หากมองถึงองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์โดยเฉพาะจากคนในพรรคไทยรักษาชาติเองโดยเฉพาะแกนนำที่ควรมีชื่อถูกเสนอในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคเช่นนายจาตุรนต์ฉายแสงกลับกลายเป็นว่าเจ้าตัวเองแม้หนังสือเชิญก็ยังไม่มีมาแถมยังไม่ทราบอีกด้วยว่าเรื่องดังกล่าวเดินไปถึงไหนแล้วซึ่งก็ถือว่าแปลกเพราะชื่อชั้นระดับเสี่ยอ๋อยไม่น่าพลาดการถูกเสนอชื่อในนามพรรคใหม่ป้ายแดงพรรคนี้

ทีนี้หันมามองซีก พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันกันบ้าง หมายล่าสุดที่ปรากฎในวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานเดินสายไปต่างจังหวัด คือวันนี้จะลงพื้นที่แถบย่านนางเลิ้ง ไปหาก๋วยเตี๋ยวทาน!!! มองกันตามจริงสัญญาณนี้ค่อนข้างบ่งชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงตั้งเข็มลงการเมืองแน่นอน ดังนั้นข่าวที่ว่า บุคคลที่พรรคไทยรักษาชาติอุบชื่อเอาไว้มีความสำคัญจนถึงขั้นทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องชะลอการตัดสินใจนั้น จึงเป็นไปได้ 2 ทางว่าข่าวดังกล่าวเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ปล่อยออกมาตามแผนสกัดดาวรุ่ง กับอีกทางมีการดีลกันเกิดขึ้นจริงแต่ไปไม่ถึงปลายทางและยุติไปแล้วในที่สุด

เมื่อเหตุการณ์เป็นดังนี้ ทางออกของพรรคไทยรักษาชาติ ในเวลานี้อาจต้องย้อนไปดูการส่ง ส.ส. ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นโมเดล ไทยรักษาชาติเลือกที่จะไม่ส่ง ส.ส. ลงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะเป็นพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยส่งคนลงมาแทนที่พอดี แกนนำพรรคอย่างนายจาตุรนต์เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า

““อยากย้ำว่าการส่งไม่ซ้ำกันระหว่าง เพื่อไทย และ ไทยรักษาชาติ ที่ไปใช้คำว่าฮั้ว มันเป็นไปไม่ได้ ที่ว่าหากพรรคไทยรักษาชาติไม่ส่งแล้วจะมีผลทำให้ประชาชนไปลงคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว เพราะในแต่ละเขตก็ยังมีผู้สมัครของพรรคอื่นอีก 30-40 พรรค”

“ประชาชนจะใช้ดุลพินิจว่าจะเลือกใครในทางกลับกัน ถ้าพื้นที่ไหนพรรคเพื่อไทยไม่ส่งแล้วมีพรรคไทยรักษาชาติลงก็ไม่ได้หมายความว่าพรรคเพื่อไทยจะไปทำให้พรรคไทยรักษาชาติได้รับการเลือกตั้งไปเลยเพราะก็ยังคงมีผู้สมัครของพรรคการเมืองอื่นอีกหลายสิบพรรคในเขตเลือกตั้งนั้น ดังนั้น คำว่าฮั้วที่ใช้กับการประมูล จึงเป็นคนเรื่องกับกรณีนี้ และในทางการเมืองในประเทศต่างๆเขามีการตกลงกันล่วงหน้าด้วยซ้ำว่า เขาจะส่งใครว่าจะให้พรรคไหนเป็นแกนนำและใครจะเป็นนายกฯ”

เมื่อโมเดลการส่ง ส.ส. ลงสนามการเมืองมากันในรูปแบบนี้ การอ่านทาง ความเป็นไปได้ในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติในนาทีนี้ ก็เป็นไปได้ว่า อาจไม่ส่งรายชื่อใครเลยก็ได้ เพราะกฎหมายเลือกตั้ง ก็ไม่ได้กำหนดเป็นเงื่อนไขกฎเกณฑ์ไว้ว่า ทุกพรรคการเมืองจะต้องส่งรายชื่อบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี นั่นหมายความว่า ไม่ส่งก็ได้ จึงมีความเป็นไปได้ว่า เรื่องของบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี พรรคไทยรักษาชาติ อาจไม่ส่งใครเลย เฉกเช่นเดียวกับการส่ง ส.ส.ลงรับสมัครการเลือกตั้งที่เว้นว่างไปบางพื้นที่นั่นเอง...