ช่วงทางตรงสุดท้าย พรรคการเมืองใหญ่และพรรคขนาดกลางที่ถูกคาดหมายว่า จะมีบทบาทสำคัญสำหรับการแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจมีผลต่อโฉมหน้าการเมืองไทยหลังวันที่ 24 มีนาคม 2562 อย่างไร ประมวลสรุปสั้นๆได้ดังนี้
พรรคเพื่อไทย นำโดย”หญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประกาศจุดยืนชัด ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและเป็นผู้มีชื่อในบัญชีนายกฯพรรคพลังประชารัฐ โดยจะให้วันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 เป็นวันส่งพล.อ.ประยุทธ์กลับไปอยู่บ้านบางวันจะส่งไปไกลถึงดาวอังคารก็มี
พรรคเพื่อไทย ยังระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังเป็นวันชี้ชะตา จะให้ประเทศเดินหน้าไปในแนวทางใด ระหว่างแนวทางของพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลเดิม หรือจะเลือกทางเดินใหม่ที่จะไร้การชี้นำของผู้นำจากการรัฐประหารยึดอำนาจ ทั้งประกาศภารกิจแรก แก้ปัญหาปากท้องค่าครองชีพ โดยเฉพาะราคาพืชผลการเกษตรจะดีขึ้น 30% ภายใน 180 วัน
พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศไม่หนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เพราะแนวนโยบายการทำงานไม่ตรงกัน และไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากยังตกอยู่ใต้การชี้นำของคนแดนไกล จึงอาสาเป็นทางเลือกที่ 3 สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ ส่วนจะดึงพรรคพลังประชารัฐมาร่วมตั้งรัฐบาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทั้ง 2 พรรค
จุดยืนของประชาธิปัตย์ คือส.ว.250 คน ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ว่าให้การสนับสนุนพรรคใดที่ได้รับคะแนนเสียงข้างมาก แทนที่จะโหวตเสียงสนับสนุนให้กับผู้ที่แต่งตั้งส.ว.เอง นอกจากนี้ ยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่นำโดยเพื่อไทยกับอนาคตใหม่ ให้ทุกพรรคโหวตเสียงสนับสนุนนายกฯจากพรรคที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากหลังการเลือกตั้งได้ โดยย้ำว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองต้องยึดมั่นและรักษาคำพูดที่ให้ไว้ในช่วงหาเสียงว่าจะหนุนใครไม่หนุนใคร
พรรคพลังประชารัฐ โดยนายอุตตม สาวนายก หัวหน้าพรรค ย้ำความเหมาะสมของคนเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สามารถทำให้บ้านเมืองสงบสุขมา 4-5 ปีแล้ว การสืบทอดที่จะมีต่อไป ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจอย่างที่ถูกโจมตี และเป็นการสืบทอดความสงบสุขของประเทศ
พลังประชารัฐ ยังคงเดินหน้าเปิดนโยบาย “ลด แลก แจก แถม” ตั้งแต่มารดาประชารัฐ เกี่ยวปุ๊บรวยปั๊บรับ 7 หมื่น หมอถึงบ้าน พยาบาลถึงเรือน กระทั่งค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทและเงินเดือนผู้จบปริญญาตรีเดือนละ 2 หมื่นบาท ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ส่งคลิปภาพและเสียงไปช่วยเวทีปราศรัยหาเสียงของพลังประชารัฐในช่วงโค้งสุดท้าย พร้อมออดอ้อนขอความรักเป็นภาษาท้องถิ่นจากประชาชน สะท้อนความมั่นใจว่าจะมีโอกาส และจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เนื่องจากมีเสียงส.ว.250 คนอยู่แล้ว
ล่าสุด เปิดเกมรุกสำคัญ ใครรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งก่อน แม้จะหลายพรรค ก็มีสิทธิ์ตั้งรัฐบาลได้ทันที หลัง "บิ๊กตู่" พ้นพงหนาม กกต.มีมติ คุณสมบัติไม่ขัดกฎหมาย
พรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่สร้างความฮือฮาจากนโยบาย “กัญชาไทยปลูกได้เสรี”บ้านละ 6 ต้น และแบ่งปันผลกำไรราคาพืชผลการเกษตร ย้ำทุกนโยบายของพรรค ทำได้จริงไม่ขายฝัน ช่วงโค่งสุดท้าย ยังคงใช้วิธีเดินสายหาเสียงช่วยลูกพรรคในทุกภาค รวมทั้งภาคใต้ โดยหมายมั่นปั้นมือจะเบียดแย่งส.ส.จากประชาธิปัตย์ได้ ทั้งที่ระนอง สตูล และนราธิวาส
พรรคภูมิใจไทย ยังเน้นแนวทางไม่ขัดแย้งกับใคร แต่ยกเว้นเรื่องเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ผู้นำพรรคย้ำชัด ต้องให้ส.ส.ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นคนเลือก และไม่เห็นด้วยกับการให้ส.ว.มีส่วนในการเลือกนายกฯ
พรรคอนาคตใหม่ นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคที่ต้องแบ่งเวลาช่วงปราศรัยหาเสียงให้กับแฟนคลับที่ต้องการถ่ายเซลฟี่กับหัวหน้าพรรคด้วย ยังสร้างแรงจูงใจได้ตั้งแต่ต้นจนถึงทางตรงสุดท้าย และจุดยืนยังคัดค้านและต่อต้านการสืบต่ออำนาจของรัฐบาลและคสช.
ช่วงท้ายๆ นายธนาธรพยายามเสนอแนวทางดับสวิตซ์ ส.ว.250 คน ไม่ให้มีบทบาทในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยให้ทุกพรรคที่ได้ส.ส.ต้องสนับสนุนนายกฯในบัญชีรายชื่อของพรรคที่สามารถรวบรวมส.ส.ได้ 376 คน แม้นว่าจะไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 376 คนก็ตาม ซึ่งจะทำให้ส.ว.หมดความสำคัญเรื่องโหวตเลือกนายกฯทันที
พรรคไหนจะทำได้สำเร็จ หรือพรรคไหนจะทำได้แค่มโน หรือขายฝัน อีกไม่กี่อึดใจ จะได้คำตอบ