เปิดเบื้องลึก! ปส. บุกค้นรังอดีตรองนายก อบต.เพชรบูรณ์ ค้ายานรก

หน่วยปฏิบัติการพิเศษสยบไพรีกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด คุมตัวนายสมบัติ เลือดทหาร หรือ รองสมบัติ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระวิง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดรายสำคัญไปสอบปากคำพร้อมตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังตำรวจข่าวกรองยาเสพติด เฝ้าติดตามพฤติกรรนายสมบัติมมานานกว่า 3 ปี ก่อนจะตัดสินใจนำกำลังเข้าจับตัวเมื่อคืนนี้

จุดที่ตำรวจนำตัวนายสมบัติเข้าตรวค้นหาหลักฐานและสิ่งผิดกฎหมายคือ บ้านเลขที่ 9/9 ม.2 ต.ระวิง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านที่นายสมบัติพักอาศัยอยู่กับภรรยา จากการตรวจค้นตำรวจพบปืนพกสั้น ซึ่งนายสมบัติอ้างว่าเป็นของคนที่รู้จักกันนำมาจำนำไว้ นอกจากนี้ตำรวจยังพบหลักฐานทางการเงินและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดี

พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่านายสมบัติมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดรายสำคัญอย่างน้อย 7 คดี ตั้งแต่ปี 2560 ทั้งคดียึดไอซ์ 400 กิโลกรัม คดีจับกัญชา และยาบ้าจำนวนมาก ซึ่งแต่ละคดีพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาใช้เส้นทางลำเลียงยาเสพติดมาจากจังหวัดอุดรธานี ผ่านมาทางจังหวัดเพชรบูรณ์

เมื่อตำรวจแกะรอยเครือข่ายทั้งหมดก็พบว่านายสมบัติ ซึ่งเป็นอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลระวิง ในจังหวัดเพชรบูรณ์และนายไพโรจน์ เลือดทหาร ซึ่งเป็นน้องชาย เป็นตัวการสำคัญในการประสานเครือข่ายและสั่งการกลุ่มนักขนยาเสพติดลำเลียงยาเสพติดไปยังพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม

นายสมบัติ อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและยืนยันไม่เคยรู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เคยถูกจับมาก่อนหน้านี้ โดยหลังจากหมดวาระรองนายก อบต.ก็มาประกอบอาชีพเป็นผู้รับเหมาถมที่ดิน ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร

ปฎิบัติการที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด กระจายกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายรวม 10 จุด พร้อมยึดบ้าน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินมีค่ารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ไว้เพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดหรือไม่

ซี่งพลตำรวจโทชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดระบุว่าการทลายเครือข่ายของนายสมบัติในครั้งนี้ เป็นการตัดวงจรยาเสพติดหนึ่งในสามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของประเทศ ซึ่งการทำงานของตำรวจปราบปรามยาเสพติดยังเน้นไปที่การทำลายเครือข่ายเพื่อเป็นการกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ