ประชุมสภาผู้แทนฯนัดแรก ทั้งลุ้นทั้งโดนถล่มล้นโซเชียล

สะท้อนความไม่พร้อมและไม่ลงตัวของขั้วพรรคพลังประชารัฐและพรรคพันธมิตรโดยเฉพาะอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังเจรจาต้าอ้วยตกลงกันเรื่องจัดตั้งรัฐบาลแต่ยังไม่สะเด็ดน้ำเรื่องโควต้ารัฐมนตรีและแม้แต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯซึ่งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ

การเจรจารอบค่ำวันที่ 24 พฤษภาคม ได้เสนอเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งที่กระทรวงนี้ ให้พรรคภูมิใจไทยไปก่อนแล้ว ทำให้กลายเป็นยุ่งนุงนังซ้ำซ้อน

ส่วนเก้าอี้ประธานสภาฯ แกนนำในพรรค พปชร.ส่วนหนึ่ง ก็อยากกันไว้เองเพื่อรับประกันการทูลเกล้าฯเสนอชื่อนายกฯจะไม่ถูกสับเปลี่ยน ถึงขั้นตกปากรับคำกระทั่งนายสุชาติ ตันเจริญ ให้สัมภาษณ์ ยืนยันเป็นผู้ถูกเสนอชื่อโดยพรรค แต่ไม่นานถัดมา กลายเป็นว่า แกนนำชุดที่เจรจากับพรรค ปชป.จะหนุนให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา พรรค ปชป. ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ตัวนี้แทน

ทำเอา กลุ่มที่หนุนนายสุชาติ และไม่อยากตกเป็นเบี้ยล่างของพรรค ปชป.ควันออกหู ไม่เห็นด้วยกับดีลการเจรจา นำไปสู่การเสนอให้เลื่อนวาระการเลือกประธานสภาผู้แทนฯออกไปก่อน

จึงเข้าทางขั้วพรรคเพื่อไทย ที่รอโอกาสหาช่องทางอยู่ก่อนแล้ว ได้ทีกระทุ้งจี้ใส่เรื่องนี้ทันควัน จนทางพรรค พปชร.ออกอาการเสียรูปมวย กระทั่งแกนนำอย่างนายวิรัช รัตนเศรษฐ์ ยอมรับในทีว่า เพราะ พรรคพปชร.ยังไม่พร้อมเรื่องตัวบุคคลนั่งประธานสภาฯและเกรงพรรคอื่นที่ร่วมรัฐบาลจะสับสน

เหตุการณ์ภายในห้องประชุมยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อฝ่ายเสนอเลื่อนการพิจารณาบางคนไปอ้างเรื่องส.ส.ใหม่ ขอเวลาศึกษาระเบียบข้อบังคับ รวมถึงขอทำความรู้จักกับเพื่อนสมาชิกส.ส.ก่อน

คอมเม้นท์ที่เป็นความเห็นในโลกโซเชียลจึงโหมกระหน่ำเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเมื่ออีกหนึ่งในแกนนำพรรคพปชร.อย่างนายอนุชา นาคาศัย ขอเปลี่ยนแปลงการลงมติเป็นเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาออกไป

แต่สุดท้าย ฝ่ายให้เดินหน้าเลือกประธานสภาฯ ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย และพันธมิตร ก็ชนะโหวต 2 คะแนนอยู่ดี

สะท้อนให้เห็นความหละหลวมในการคุมเกมในสภาฯของฝ่ายพรรค พปชร.ที่หมายมั่นปั้นมือจะได้เสียงข้างมากในสภาเพื่อชิงจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งที่ทราบดีว่า จำนวนเสียงส.ส.ของทั้งคู่ก้ำกึ่งสูสีกันมาก ใครเผลอเรอพลั้งพลาดมีโอกาสพ่ายแพ้ทันที   แม้ท้ายที่สุด นายชวน หลีกภัย ที่ได้รับการเสนอชื่อจาก พรรค พปชร.จะได้เป็นประธานสภาฯหลังการโหวตที่ใช้เวลายาวนานจนถึงค่ำ ด้วยคะแนน 258 ต่อ 235 ซึ่งมีนัยเสียงของงูเห่าสอดแทรกอยู่ด้วย แต่ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในวันประชุมสภาฯวันแรก คือสิ่งที่เป็นบทเรียนสำคัญของ พรรคพปชร.และพันธมิตร จะมองข้ามเลยไปไม่ได้เด็ดขาด

โดยเฉพาะการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งปกติ จะเดินหน้าได้ยากลำบากแสนเข็ญอยู่แล้ว