svasdssvasds

คนในข่าว ภูมิใจไทย อ้าแขนรับ "เศรษฐพงค์" รองปธ.กสทช.

คนในข่าว ภูมิใจไทย อ้าแขนรับ "เศรษฐพงค์" รองปธ.กสทช.

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ภูมิใจไทย อ้าแขนรับ “เศรษฐพงค์”รองปธ.กสทช.

หอมกลิ่นการเมืองอีกคน สำหรับ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ต่อ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. มีผลทันที ตั้งแต่ 9 ตุลาคม 2561

โดยระบุเหตุผลว่า เพื่อไปประกอบอาชีพอื่น โดยเฉพาะการเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทเอกชน แต่พลันที่มีข่าวลาออก ก็มีกระแสข่าวเตรียมเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย พร้อมคั่วตำแหน่งโฆษกพรรคคนใหม่ ตามติดมาด้วยเสียงขานรับจากศุภชัย ใจสมุทร หนึ่งในแกนนำสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ที่กล่าวด้วยว่า ตำแหน่งโฆษกพรรคนั้น เล็กเกินไปสำหรับคนนี้

พ.อ.เศรษฐพงค์ นอกจากเป็นรองประธาน กสทช.แล้ว ยังเป็น ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. ซึ่งเป็นหนึ่งใน 2 ชุดคณะกรรมการที่รวมกันเป็น กสทช. โดยรับตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2554 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กสทช.ชุดใหม่ ส่วนใหญ่จะมาจากทหารและตำรวจ ต่างจาก กสทช.ชุดก่อนหน้านี้ ขณะที่กิจการด้านโทรคมนาคมและกระจายเสียงของไทย ถ้านับรวมมูลค่าแล้ว มีประมาณมหาศาล 3.5 แสนล้านบาทเลยทีเดียว

ความจริง กสทช.ชุดปัจจุบัน ครบวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2560 แต่เนื่องเนื่องจาก การประชุมลับเพื่อลงมติเลือก กสทช. ชุดใหม่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 สนช. ได้ลงมติคว่ำ ผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 14 คนจากคณะกรรมการสรรหา ทำให้กสทช. ชุดนี้ ยังต้องทำหน้าที่รักษาการต่อไป

สำหรับ พ.อ.เศรษฐพงค์ ได้รับการยอมรับ ว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนายกระดับวงการโทรคมนาคมของไทย โดยเฉพาะการจัดประมูลความถี่ 3G หรือ คลื่น 2100 MHz การประมูล 3 ใบอนุญาตกับ 3 โอเปอเรเตอร์ ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่การประมูลคลื่นอื่นๆ ตามมา เป็นการเปิดศักราชใหม่ของโทรศัพท์มือถือของประเทศไทย ที่มีความเร็วและแรงอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ขณะที่งานวิจัยส่วนบุคคล เรื่อง “แนวทางการกำกับดูแลกิจการด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคมและการสื่อสารของประเทศไทย เพื่อผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน”ของ พ.อ.เศรษฐพงค์ เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร หรือปรอ. รุ่นที่ 57 เมื่อไม่นานมานี้ ยังได้รับรางวัลชมเชย ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งในหลายผลงาน ที่สะท้อนให้เห็นความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมของพ.อ.เศรษฐพงค์ ได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน สื่อบางสำนัก ได้เคยนำข้อมูลของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ตรวจสอบพบงบของสำนักงาน กสทช. ปีงบประมาณ 2556 มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 3,311 ล้านบาท ในจำนวนนี้รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศสูงถึง 61.57 ล้านบาท

โดย กสทช. ที่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศสูงสุด คือ พ.อ.เศรษฐพงค์ ประธาน กทค. เดินทางทั้งสิ้น 18 ครั้ง วงเงินรวม 13.10 ล้านบาท รวมจำนวนวันที่ใช้เดินทางไปต่างประเทศ 122 วัน

related