สมศักดิ์ โคล้านตัว แท้จริงแล้วจองรัฐมนตรีเกษตรฯ?

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตหัวหน้ากลุ่มวังน้ำยม และแกนนำกลุ่มสามมิตร ปัจจุบันเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ คนที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า มีการเจรจาต่อรอง จองเก้าอี้รัฐมนตรีพาณิชย์ไว้แล้ว หลังการเลือกตั้งส.ส.ต้นปีหน้า

ก่อนจะถูกโหมกระพือโดยนายภิรมย์ พลวิเศษ อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน และเป็นผู้ประสานงานกลุ่มสามมิตรว่า นายสมศักดิ์ ไม่ได้จองตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ แต่จองเก้าอี้รัฐมนตรีเกษตรฯต่างหาก แถมยังสั่งจองเฮลิคอปเตอร์ไว้แล้วถึง 2 ลำ สำหรับใช้บินตรวจงานด้านการเกษตรฯ ก่อนจะออกมาปฏิเสธแก้ตัวกันพัลวัน

นายสมศักดิ์ เกิด 13 มกราคม พ.ศ. 2498 ที่อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย จบการศึกษาจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ปริญญาโทรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต (สาขาบริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สมรสกับนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ทำธุรกิจก่อสร้าง ในนามห้างหุ้นส่วน สุโขทัย เอ็นจิเนียริ่ง ทำกิจการฟาร์มเทิดไท และตลาดค้าส่งตลาดเทิดไท และเป็น ประธานสโมสรฟุตบอลจังหวัดสุโขทัย

เป็นส.ส.สุโขทัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 เป็นอดีตเลขาธิการพรรคกิจสังคม ได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านการเมืองจากนายมนตรี พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคในขณะนั้นอย่างช่ำชอง เป็นรัฐมนตรีครั้งแรก(กระทรวงสาธารณสุข) สมัยรัฐบาลของพลเอกสุจินดา คราประยูร

เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐบาลชวน 2 ก่อนย้ายไปพรรคไทยรักไทย ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ปี พ.ศ. 2545 ก่อนย้ายไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี พ.ศ. 2546 เป็นเจ้าของนโยบาย “โคล้านตัว”ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งปี 2548 หลังจากนั้น ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน

ตกเป็นข่าวบนหน้าสื่ออีกครั้ง กรณีเขื่อนเรียงหินที่ลำน้ำยม จากนั้นหลังรัฐประหารปี 2549 นายสมศักดิ์ลาออกจากพรรคไทยรักไทย ไปจัดตั้ง"กลุ่มมัชฌิมา" ก่อนยกระดับเป็นพรรคมัชฌิมาธิปไตย ร่วมกับนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ โดยนางอนงค์วรรณ รั้งตำแหน่งเลขาธิการพรรค

ปี พ.ศ. 2551 หลังพรรคถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ย้ายไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มเพื่อนเนวินตั้งพรรคภูมิใจไทย และย้ายข้างไปสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่นานต่อมา ลาออกจากพรรคภูมิใจไทยกลับไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 16 ในการเลือกตั้งปี 2557 แต่โมฆะ ก่อนย้ายไปตั้งกลุ่มสามมิตร และเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐในที่สุด

การเมืองในแบบฉบับของนายสมศักดิ์ ไม่ต้องพูดเก่ง ไม่ต้องมีส.ส.ในสังกัดโดยตรงมากจนเกินไป แต่ “ฝากเลี้ยง”ไว้กับพรรคอื่นได้ ถนัดเรื่องเจรจาและ”ปิดดีล”ทางการเมือง