"เพื่อไทย" หงายไพ่ชุดแรก แผนสำรอง "เซฟ" ตัวจริง แต่ "วิบากกรรม" ยังไม่จบ

พรรคเพื่อไทย ถือเป็นพรรคสำคัญพรรคที่ 3 ของการเมืองไทยปัจจุบัน ที่เลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไปเรียบร้อย ต่อจากพรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้งนี้ ไม่นับรวมพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคเกิดใหม่ และยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการจัดตั้งพรรคการเมือง

หลังจากก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย ถูกจับตามากเป็นพิเศษจากคนในแวดวงการเมืองที่อยากจะเห็นการ"เปิดไพ่"ของพรรคการเมืองใหญ่อันดับ 1 สำหรับการเลือกตั้ง 4 ครั้งหลังสุดที่ผ่านมา

ท่ามกลางกระแสข่าวทั้งบนหน้าสื่อหลักและสื่อออนไลน์ทั่วไป ที่นำเสนอความเคลื่อนไหว ตลอดจนบทวิเคราะห์ที่หลากหลายมาตลอด โดยเฉพาะประเด็นยุทธศาสตร์"แยกกันเดิน ร่วมกันตี"ที่เชื่อมโยงกับพรรคการเมืองทั้งเกิดใหม่และพรรคเก่าหลายพรรค เพื่อกระจายนักการเมืองและอดีตส.ส.ในสังกัด ไปลงสมัครในนามพรรคเหล่านี้ โดยหวังเก็บ "ทุกคะแนน" ไม่ให้ตกหล่น สำหรับคิดคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ

อย่างไรก็ดี ข่าวคราวเหล่านี้ ได้ถูกปฏิเสธว่า ไม่มีพรรคสาขาหรือพรรคนอมินีจากแกนนำในพรรคเพื่อไทยหลายคน ซึ่งยังคงยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองอื่น ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีข่าวคราวแย่งชิงผู้นำธงพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคหลายคน รวมทั้ง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ / คุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และแกนนำที่มีรายชื่อเป็นแคนดิเดทอีกหลายคน

นอกจากเป็นเรื่องต้องสงสัยของคนวงนอกที่ใคร่อยากรู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จแล้ว ความกังวลอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในกลุ่มสมาชิกพรรคเพื่อไทยและแนวร่วม คือหวั่นเกรงจะมีคำสั่งยุบพรรคตามรอยพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน หลังถูกร้องเรียนต่อกกต. เรื่องทักษิณ ชินวัตร ไลฟ์สดในงานวันคล้ายวันเกิดปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากอังกฤษ ไปยังก๊วนกอล์ฟแกนนำพรรคในประเทศไทย และยังโดน คสช.แจ้งความกองปราบ ใน 4 ข้อหาสำคัญ เอาผิดแกนนำพรรค 8 คน ในวันแถลงครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557

ข่าวคราวที่หลากหลาย แต่บางเรื่องดูสลับซับซ้อน และอีกบางเรื่องไม่น่าจะเป็นไปได้ ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยถูกจับตาในลำดับต้นๆ ไม่ได้ด้อยไปกว่า ข่าวรณรงค์ขอเสียงสนับสนุนการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคของพรรคประชาธิปัตย์

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นว่า เพราะการเลือกตั้งตามกติกาใหม่ ในระบบจัดสรรปันส่วนผสม จะเอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองขนาดกลาง ประกอบกับ พ.ร.ป.พรรคการเมืองฉบับใหม่ ออกแบบให้การตั้งพรรคการเมืองทำได้ยาก แต่สามารถถูกยุบได้ง่ายขึ้น หลายพรรคการเมืองจึงต้องปรับตัว รวมทั้ง พรรคเพื่อไทย ที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งพรรคสำรอง หรือพรรคพันธมิตรที่มีอุดมการณ์คล้ายคลึงกัน

นอกจากนี้ ยังต้องพยายามกันผู้บริหารส่วนหนึ่งไว้ในโซนปลอดภัย ดังนั้น การให้ผู้บริหารพรรคชุดรักษาการ ขึ้นทำหน้าที่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง จึงเป็นการปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับกติกาใหม่

"คนที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อาจไม่จำเป็นต้องเป็น 1 ใน 3 รายชื่อที่พรรคจะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี"รศ.ดร.ยุทธพร กล่าว และเห็นว่า "คุณหญิงหน่อย"ที่ถูกดันไปนั่งเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค มีความเป็นไปได้ที่น่าจะเป็น 1 ใน 3 รายชื่อที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ขณะนี้ ยังไม่กล้าที่จะเปิดเผยความชัดเจน เนื่องจากเกรงจะถูกจับจ้อง หรือถูกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นการ”เตะสกัด” ตั้งแต่ต้นทาง

มุมมองจากนักวิชาการวงนอกเช่นนี้ มีหรือที่คนวงในอย่างนักการเมืองในพรรคเพื่อไทยจะประเมินสถานการณ์ไม่ออก นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยในช่วงที่ผ่านมา เป็นไปในลักษณะ”ลับ ลวง หลอก” เสียเป็นส่วนใหญ่

ขณะที่ยุทธศาสตร์จริง อาจจะยังเป็น"ความลับ" ไพ่ที่เปิดผ่านคณะผู้บริหารพรรคชุดใหม่ ยังต้องซ่อน"ไพ่เด็ด"ซุกอยู่ในมือ พร้อมๆกับรอเงี่ยหูฟังปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะชี้ชะตาความอยู่รอด นั่นคือเรื่อง"ยุบพรรค" ที่บรรดาแกนนำเพื่อไทย ต้องไม่ลืมเตรียม"แผนสุดท้าย"ไว้รับมือขั้วตรงข้ามในยามคับขับ

พรรคเพื่อไทยวันนี้ จึงยังคงยืนอยู่บนความไม่แน่นอน แม้ว่าความจริงแล้ว ถ้าเทียบกันคนต่อคน และนโยบายต่อนโยบาย มีโอกาสชนะเลือกตั้งมากกว่าทุกพรรคการเมืองก็ตาม