svasdssvasds

บ้านใหญ่ปากน้ำหนุนช่วย “บิ๊กตู่” “อัศวเหม”ทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.สมุทรปราการ

บ้านใหญ่ปากน้ำหนุนช่วย “บิ๊กตู่” “อัศวเหม”ทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.สมุทรปราการ

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

การลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการถึง 2 ครั้งภายในเวลาไม่ถึงเดือนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ด้านหนึ่งคือการตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าที่จะให้บริการไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าเคหะ จ.สมุทรปราการ

และอีกด้านหนึ่ง คือลงพื้นที่พบปะประชาชนสอบถามพ่อค้าแม่ขายเรื่องสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งก็นำไปสู่อารมณ์หงุดหงิดอีกครั้งของ “บิ๊กตู่” หลังพบเห็นสื่อบางสำนัก ลงข่าวนำเสนอในทำนองพ่อค้าแม่ขายบ่นว่าขายของไม่ดี

ลงพั้นที่สมุทรปราการครั้งแรกสำหรับเดือนธันวาคม 2561 คือ 6 ธันวาคม เปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ครั้งที่ 2 วันที่ 24 ธันวาคม พบปะประชาชนและเดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดพระประแดง ก่อนเดินทางไปเยี่ยมชมการบริหารจัดการระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

สะท้อนให้เห็น การตระหนักถึงความสำคัญของสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ปริมณฑลของกรุงเทพฯ ที่ความเจริญขยายเข้าไปจนแทบจะไม่ต่างจากกรุงเทพฯ และยังเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ สนามบินหลักอันดับ 1 ของประเทศ

แต่ในขณะเดียวกัน สมุทรปราการ ก็เป็นฐานที่มั่นสำคัญของมวลชนคนเสื้อแดง และฐานเสียงสำคัญของขั้วพรรคเพื่อไทย

แม้หลายจังหวัดใหญ่ จะมีจำนวน ส.ส.ลดลงจากเลือกตั้งเมื่อปี 2554 เนื่องจากส.ส.เขตลดลงจาก 375 เขตเหลือเพียง 350 เขต แต่จังหวัดสมุทรปราการในการเลือกตั้งปี 2562 ยังจะมีส.ส.ได้ 7 คนเท่าเดิม ซึ่งเกือบทั้งหมด ถูกยึดครองโดยพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคไทยรักไทย ตั้งแต่เลือกตั้งปี 2544

ขณะที่นักการเมืองจากตระกูลอัศวเหม ของนายวัฒนา อัศวเหม อดีตส.ส.10 สมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยและช่วยอุตสาหกรรม เจ้าของสมญา “เจ้าพ่อกรรมกร” เนื่องจากในอดีต สมุทรปราการเป็นพื้นที่ตั้งสำคัญของโรงงานอุตสาหกรรมแทบทุกประเภท

จากที่เคยเป็นกลุ่มการเมืองใหญ่มากบารมี ยึดเก้าอี้ส.ส.เกือบทั้งหมดของจังหวัดไว้ได้ แต่หลังจากเกิดพรรคไทยรักไทยของนายทักษิณ ชินวัตร และส่งผู้สมัครส.ส.ครั้งแรกในการเลือกตั้งปี 2544 กลุ่มการเมืองของนายวัฒนาก็หายไปจากสารบบการเมืองระดับชาติตั้งแต่นั้น แต่ยังยึดเก้าอี้สำคัญในระดับท้องถิ่นไว้ได้อย่างเหนียวแน่นกระทั่งถึงปัจจุบัน

แม้คนที่ถือเป็นทายาทหลักของตระกูลในยุคปัจจุบัน อย่างนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม จะโดนมรสุมทั้งคดีทุจริตเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการตั้งแต่ ปี 2542 เจอคุก 1 ปี 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา และยังโดนคำสั่ง คสช.ที่ 19/2558 ให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯอบจ.สมุทรปราการ เมื่อปี 2558 แต่ปัจจุบัน นายชนม์สวัสดิ์ ยังมีตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ รองรับ

นายชนม์สวัสดิ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ไปให้การต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์และคณะ ในการเดินทางไปตรวจเยี่ยมและเปิดทดลองให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561 พร้อมสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ทั้งยังพูดชื่นชมนโยบายของรัฐบาล

ถือเป็นการส่งสัญญาณในทีว่า บ้านใหญ่เมืองปากน้ำแห่งตระกูลม้าทองคำ พร้อมให้การสนับสนุน “บิ๊กตู่”ชัดเจน

ไม่เพียงเท่านั้น ทายาทจากตระกูลอัศวเหมคนอื่นๆ อย่างนายอัครวัฒน์ อัศวเหม ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่รองนายกอบจ.สมุทรปราการ และปฏิบัติหน้าที่แทนนายชนม์สวัสดิ์ หลายครั้ง ก็เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร จังหวัดสมุทรปราการ เขต 1 ในสังกัดพรรคประชารัฐ

พร้อมกับนายต่อศักดิ์ อัศวเหม ลูกพี่ลูกน้องนายชนม์สวัสดิ์ อดีตเคยทำหน้าที่รองนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ เคยไปช่วยงานที่อบจ.หลายครั้ง และเป็นคนที่นายชนม์สวัสดิ์ ไว้วางใจและเชื่อมั่น พยายามผลักดันให้เข้าสู่เวทีการเมืองระดับชาติเต็มตัว ก็เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐไปแล้ว

มิหนำซ้ำ นายอัครวัฒน์ยังประกาศจะพาพรรคพลังประชารัฐเหมายกจังหวัด 7 คน เพื่อทวงคืนเก้าอี้ส.ส.สมุทรปราการอีกต่างหาก

แต่จะทำได้สำเร็จแค่ไหน อย่างไร อยู่ที่พรรคเพื่อไทย “แชมป์เก่า” 4 สมัยติดติดต่อกัน จะให้คำตอบ

related