ใครว่า “ลุงตู่กระเป๋าแฟ่บ”

ไม่เฉพาะ “หญิงหน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย เจ้าของประโยคเด็ด “เลือกเรากระเป๋าตุง เลือกลุงกระเป๋าแฟ่บ” เท่านั้น ที่ต้องวัดใจประชาชน รอพิสูจน์ในวันเลือกตั้ง

แต่ยังหมายถึงกองเชียร์ทั้งจากพรรคการเมืองเลือกขั้ว และกองเชียร์ประเภทแฟนคลับ หรือ เอฟ/ซี ด้วย ใครจะคิดผิด คิดถูก หรือเลือกข้างถูก เลือกข้างผิด

เพราะในมุมของกองเชียร์ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมั่นใจว่า ได้นั่งเก้าอี้นายกฯต่ออีก 1 สมัยหลังการเลือกตั้งส.ส.แน่ๆ โดยเฉพาะเมื่อประเมินจากการลงพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คือขึ้นเหนือไปที่จังหวัดเชียงใหม่ และประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดลำปาง

“รักนะ รักทุกๆคน” คือประโยคที่ “ลุงตู่” ออดอ้อนและใช้มือแสดงสัญญลักษณ์ความรักส่งให้ “คนเมือง”หรือ “ชาวเหนือ”ทุกคน ตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ ที่วัดพระศรีจอมทองวรวิหาร อำเภอจอมทอง ระหว่างนั่งรถออกจากพื้นที่หลังได้กำลังใจล้นหลาม รวมทั้งได้ “กุหลาบเหลือง” แทนใจชาวบ้านในพื้นที่

“จะให้อยู่ที่นี่เลยไหม ชอบนะ ชอบเชียงใหม่” เป็นคำกล่าวอำลา ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สร้างความประทับใจให้กับเจ้าบ้านยิ่งนัก

ยังไม่นับรวม ได้รับมอบพระพุทธรูปทรงเครื่องและพัดใบตาลจากพระพรหมมงคล เจ้าอาวาสวัดพระศรีจองทอง ซึ่งน่าจะมีนัยดังที่ “ลุงตู่”เองได้สนทนาธรรมถามไถ่ทำนองว่า พัดใบตาลได้แล้วจะทำให้ใจเย็นลงใช่ไหม

ส่วนที่จังหวัดลำปางก็เช่นกัน เจ้าบ้านร่วมต้อนรับขับสู้ตามแบบฉบับ “คนเมืองล้านนา” ที่แฝงความประทับใจในทุกจุดที่ “ลุงตู่” ไปพบปะเยี่ยมเยียน กระทั่งจุดสุดท้าย วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์สำคัญและมีประวัติความเป็นมายาวนาน

“ลุงตู่” ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่บนรถม้าลำปาง ในมาดของ พยัคฆ์ร้าย เจมส์บอนด์ 007 เนื่องจากม้าหมายเลข 12 ที่ใช้ลากรถคันดังกล่าว ชื่อเจ้าเจมส์บอนด์

พร้อมโบกไม้โบกมือและทำสัญลักษณ์ “ไอ เลิฟ ยู”ให้กับประชาชนที่ไปรอต้อนรับ ก่อนจะสวมบทมัคคุเทศก์กิตติมศักดิ์ ทักทายสนทนากับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้ช่วยประชาสัมพันธ์บอกต่อเพื่อเชิญชวนพวกพ้องให้มาท่องเที่ยวเมืองไทยกันเยอะๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ “ลุงตู่”ใช้คำว่า “เบสท์ เฟรนด์”

สร้างรอยยิ้มและบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ซึ่งสามารถหาได้จากในตัวของ “ลุงตู่” ชนิดที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยยกนิ้วให้ว่า “มีของ”และโดดเด่นกว่าแกนนำพรรคการเมืองหลายๆคนที่มาจากการเลือกตั้งด้วยซ้ำไป

เพราะขณะที่แกนนำนักการเมืองเหล่านั้น มักจะออก “แอ๊คชั่น”ตามบทสคริปท์ที่ผู้กำกับเขียนไว้ แต่ต่างจาก “ลุงตู่”ที่ “แอ๊คชั่น”และคำพูดต่างๆ ล้วนออกมาเองตามธรรมชาติและทันทีทันควัน เพราะยี่ห้อ “ลุงตู่” คงหาคนสั่งให้เล่นตามบทในสคริปต์ได้ยากเต็มทน

ถือเป็นการเก็บเกี่ยวคะแนนนิยมตุนใส่ไว้ในกระเป๋า และอาจอัดแน่นมาตลอดเวลาก็เป็นได้

นี่ยังไม่นับการพิจารณาอนุมัติโครงการต่างๆเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และพัฒนาศักยภาพด้านเศรษฐกิจ การลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว และอื่นๆ ที่มีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะก่อให้เกิดมรรคผลทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาวต่อไป

ฉะนั้น ใครที่คิดว่า “ลุงตู่”กระเป๋าแฟ่บ คงต้องพิจารณาทบทวนใหม่อีกรอบ เพราะอาจ “หน้าแตก” ครั้งใหญ่ หลังการเลือกตั้งส.ส.

เป็นคำเตือนจาก “ลุงตู่”!