svasdssvasds

นับถอยหลัง!! พรรคไทยรักษาชาติ หลังกกต.ส่งเรื่องศาลรธน.ยุบพรรค

นับถอยหลัง!! พรรคไทยรักษาชาติ หลังกกต.ส่งเรื่องศาลรธน.ยุบพรรค

เหนื่อยแน่ สำหรับพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อกกต.มีมติ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณายุบพรรค ตามมาตรา 92 (2 ) พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 2560

วงเล็บ 2 ที่ว่า คือการกระทำเป็นปรปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลสะเทือนหลายด้าน ทั้งในพรรคเองจะมีผลต่อกรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คนจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปีหากศาลรธน.ตัดสินยุบพรรคจริง และยังจะกระทบต่อผู้สมัครส.ส.ของพรรค

ส่วนนอกพรรค จะมีผลต่อสมการการเมืองที่คาดหวังจะชิงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพันธมิตร และจะกลับกลายไปเป็นฝ่ายค้านแทน

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่าจ้างบริษัทต่างประเทศทำโพลสำรวจ จะได้คะแนนเสียงรวมกันกับพรรคพันธมิตรมากถึง 290 เสียง มองเห็นชัยชนะอยู่รำไร

นับเป็นวิบากกรรมทางการเมืองอย่างแรกของขั้วพรรคเพื่อไทย ในการสู้ศึกเลือกตั้ง 2562 และต้องลุ้นวิบากกรรมที่ 2 จากคดีวิจารณ์ 4 ปีรัฐประหารของ(อดีต)แกนนำพรรคเพื่อไทย 9 คน ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก

สะท้อนความหายนะที่จะเกิดขึ้นกับขั้วที่อยู่ตรงข้ามกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพลังประชารัฐ ที่บังเอิญอย่างยิ่งที่ได้รับ"ส้มหล่น"แบบคาดคิดไม่ถึง

เท่ากับ"บิ๊กตู่"สามารถตระเตรียมแต่งเนื้อแต่งตัวรอนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 2 ได้ตั้งแต่ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งด้วยซ้ำ เพราะมีส.ว.ในมือเป็นทุนอยู่แล้ว 250 เสียง ส่วนพรรคทางเลือกที่พร้อมเข้าร่วมรัฐบาลก็มีอยู่ไม่น้อยกว่า 3-4 พรรค ทั้งพรรคเล็ก พรรคกลาง และพรรคใหญ่

นี่จึงเป็นบทเรียนสำคัญของพรรคไทยรักษาชาติและจะรวมถึงพรรคอื่นในกลุ่มพันธมิตรของพรรคเพื่อไทย

และอาจรวมไปถึงคนที่มีส่วนร่วมหรืออยู่เบื้องหลังการเดินเกมการเมืองที่ผิดพลาดครั้งนี้ด้วย

พรรคไทยรักษาชาติ เกิดขึ้นจากยุทธศาสตร์แตกพรรคเพื่อรับมือการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ขณะเดียวกัน ก็เกิดจากโมเดลความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ นับตั้งแต่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เริ่มขยับจะจัดตั้งพรรคการเมืองเสียด้วยซ้ำ

เป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งด้วยคนรุ่นใหม่ และมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่เช่นเดียวกัน จึงมีการเปลี่ยนแผนจากเดิมตั้งพรรคเพื่อธรรมรองรับสมาชิกพรรคส่วนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ไปเป็นตั้งพรรคไทยรักษาชาติขึ้นมาแทน

พร้อมกับพยายามขยับหาคนรุ่นใหม่ๆไปนั่งเป็นกรรมการบริหารพรรคเหมือนที่พรรคอนาคตใหม่ทำ แต่สิ่งที่แตกต่างกัน และถือเป็นจุดเริ่มต้นของความผิดพลาด คือคนรุ่นใหม่ที่ถูกเลือกไปนั่งบริหารพรรคไทยรักษาชาติ กลายเป็นบรรดาลูกหลานของคนในตระกูลชินวัตร และทายาทของบรรดาแกนนำตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน กระทั่งถึงพรรคเพื่อไทย

คนเหล่านี้ถูกผลักดันและวางตัวเป็นกรรมการบริหารพรรคที่ต้องทำหน้าที่บริหาร ขับเคลื่อน และการตัดสินใจของพรรค ทั้งที่หลายคนยังเป็น"ละอ่อนทางการเมือง" อาศัยบารมีพ่อแม่กรุยทาง

ขณะที่นักการเมืองระดับ"เก๋าเกม"อย่างจาตุรนต์ ฉายแสง พิชัย นริพทะพันธุ์ และณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กลับไปมีชื่อในตำแหน่งอื่นที่พรรคตั้งขึ้นมารองรับกันเอง แต่ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค ซึ่งเท่ากับจะไม่ได้ร่วมประชุมในการพิจารณาหรือตัดสินชี้ขาดเรื่องสำคัญๆที่กรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย

อย่างที่นายจาตุรนต์ และนายพิขัย ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุไม่ได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์วันที่ 8 กุมภาพันธ์

การขาดประสบการณ์ ไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมือง ขาดการตรวจสอบอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องสถาบันเบื้องสูง จึงนำไปสู่ความวิบัติที่กำลังรออยู่เบื้องหน้า

วิบากกรรมของจริง

related