svasdssvasds

สถานการณ์เป็นใจให้ "บิ๊กตู่" ที่เหลืออยู่ที่ฝีมือให้ปชช.เลือก

สถานการณ์เป็นใจให้ "บิ๊กตู่"  ที่เหลืออยู่ที่ฝีมือให้ปชช.เลือก

เมื่อกกต.มีมติเอกฉันท์ส่งเรื่องยุบพรรคไทยรักษาชาติ หรือทษช.ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ขณะที่แกนนำพรรคต้องประกาศยุติการเดินสายเปิดเวทีหาเสียง เพื่อเตรียมพร้อมสู้ศึก"ยุบพรรค"ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของพรรคในวันนี้

ส่งผลให้เส้นทางก้าวเดินสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งดูยิ่งสดใสมากขึ้น สอดคล้องกับกระแส"ส้มหล่น"ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว

พล.อ.ประยุทธ์ จะมีส.ว.ในมือเป็นต้นทุนเบื้องต้น 250 คน การเลือกนายกฯรอบแรกจากบัญชีรายชื่อนายกฯ จึงต้องการอีกเพียง 126 เสียง เพื่อให้ได้ 376 เสียงก่อนที่ขั้วการเมืองอื่นจะรวบรวมส.ส.ได้เกินกว่ากึ่งหนึ่งของ 2 สภารวมกันที่มี 750 คน

เมื่อได้เสียงข้างมากรับประกันเก้าอี้นายกฯแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ต้องหาเสียงส.ส.สนับสนุนให้ได้เกินกว่า 250 เสียง เพื่อเป็นเสียง ข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะตามมาเอง

ด้วยรู้ซึ้งถึงธรรมชาตินักการเมืองดีว่า อยากอยู่ฝ่ายรัฐบาล ไม่อยากอยู่ฝ่ายค้าน

ขณะที่ขั้วเพื่อไทย ซึ่งวางยุทธศาสตร์แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย และหมายมั่นปั้นมือว่า การร่วมกันตีแยกกันเดินนั้น  จะสามารถได้จำนวนส.ส.รวมกันตามเป้า 290 คนตามที่มีข่าวว่าได้จ้างบริษัทต่างประเทศทำสำรวจคะแนนเสียงที่พรรคเพื่อไทยและพันธมิตรจะได้รับจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

แต่เมื่อไทยรักษาชาติเกิดเหตุการณ์พลิกผันตั้งแต่ต้นทาง ตัวเลขที่จะเติมเต็มในสมการการเมืองที่คาดหวังพลันพังครืน จะปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์อย่างไร ก็ไม่ใช่เรื่องอยู่ดี

สถานการณ์จึงตรงข้ามกับ"บิ๊กตู่"กับพรรคประชารัฐ ที่ดูจะติดลมบนมาตั้งแต่การใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐช่วยกรุยทางเมื่อปลายปี 2561 และยังต่อยอดจนถึงปี 2562 โดยขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มไปยังกลุ่มอื่นๆ นอกจากผู้ถือบัตรผู้มีรายได้น้อย 14 ล้านคน

ขณะที่ผู้ถือบัตรทอง หรือบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่มีอยู่กว่า 48.2 ล้านคน ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติเพิ่มวงเงินเฉลี่ยต่อหัวเพิ่มขึ้นเป็น 3,600 บาท เท่ากับได้รับการใส่ใจเรื่องสุขภาพจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เต็มที่

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ นอกจากประกาศสานต่อนโยบายรัฐบาล"บิ๊กตู่"สุดตัวแล้ว ยังเปิดนโยบาย 7-7-7 ประกอบด้วยสวัสดิการประชารัฐ 7 เรื่อง สังคมประชารัฐ 7 เรื่อง และเศรษฐกิจประชารัฐ 7 เรื่องส่งเสริมความเข้มแข็งลดความเหลื่อมล้ำสร้างโอกาสเพิ่มรายได้

ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ยังเพิ่มนโยบาย"มารดาประชารัฐ"ดูแลส่งเสริมเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เอาใจทั้งคุณแม่และเด็ก ทั้งยังปาดหน้านโยบาย"เกิดปั๊บรับแสน"ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ส่งเสริมดูแลเด็กตั้งแต่แรกคลอด แต่ของพปชร.เกทับ ดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่

ถือเป็นความโดดเด่นในการคิดนโยบายที่เข้าถึงและกินใจประชาชน ซึ่งดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ มีผลงานและประสบการณ์มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร

ด้วยความได้เปรียบของการเป็นรัฐบาลปัจจุบันด้วย ทำให้เส้นทางของ"บิ๊กตู่"ดูสดใสมีออร่ามากกว่าคู่แข่งจากพรรคการเมืองอื่น

ที่เหลือจึงขึ้นอยู่ที่ฝีมือการแจกแจงผลงานและนโยบายต่างๆให้เข้าถึงประชาชนอย่างได้มรรคผลเท่านั้น

ที่สำคัญ อย่าสะดุดขาตัวเองเป็นพอ

related