พท.พุ่งเป้า!! เปิดแผลกองทัพ สงครามยังไม่จบห้ามนับศพทหาร
เป็นศึกต่อเนื่อง สำหรับขั้วเพื่อไทยกับขั้วบิ๊กตู่ 2 ขั้วการเมืองที่ไม่มีใครปฏิเสธว่า เป็นคู่แข่งคู่ชิงทางการเมืองอย่างแท้จริง ในศึกเลือกตั้ง 62
จากกระแสข่าวที่ถูกลือและโหมสะพัดผ่านสื่อโซเชียล เรื่องปฏิวัติรั ฐประหาร หลังเหตุการณ์ “สึนามิทางการเมือง” เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ตามด้วยอาฟเตอร์ช็อก อย่างปลอมคำสั่งหัวหน้าคสช. เด้ง 3 ผู้นำเหล่าทัพ รวมทั้งพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หรือบิ๊กแดง ออกจากจากผบ.ทบ.
ล่าสุดขณะนี้ ปมร้อนทางการเมืองที่ต่อเนื่อง เป็นเรื่องประเด็นหาเสียงและโจมตีจากทางฝั่งเพื่อไทย โดย “หญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งของพรรค ที่สวมบท “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” ประกาศนโยบายบนเวทีปราศรัย จะหั่นงบกองทัพลง 10% และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
อันเป็นนโยบายที่ก่อนหน้านี้ ประกาศโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งไปโดนใจคนรุ่นใหม่ที่อยากเห็นคนกล้าจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการเมืองไทย ไม่ว่าจะเรื่องปฏิรูปกองทัพ ลดจำนวนนายพล และยกเลิกเกณฑ์ทหาร
เมื่อ “หญิงหน่อย”สุดารัตน์ ประกาศซ้ำเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยด้วย จึงเท่ากับว่า 2 พรรคนี้นโยบายสอดคล้องกัน และพุ่งเป้าโจมตีไปยัง “บิ๊กตู่”และกองทัพโดยตรง ตามยุทธศาสตร์ “แยกกันเดิน ร่วมกันตี”
ถือเป็นการกระทุ้งไปยัง “จุดด้อย”ของรัฐบาลบิ๊กตู่ และกองทัพ ซึ่งที่ผ่านมา มักมีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณและการจัดซื้อยุทโธปกรณ์เสมอมา แต่การตรวจสอบกลับไม่เคยกระจ่างแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นรถถัง เฮลิคอปเตอร์ เรือดำน้ำ เรือเหาะ หรือแม้กระทั่ง GT 200
เป็นการเล่นบททุบกล่องดวงใจ ท้าชนทั้งรัฐบาลและกองทัพโดยตรง นอกเหนือจากเรื่องแก้ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ และพืชผการเกษตรที่ราคาตกต่ำ ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยใช้เป็นประเด็นหลักในการหาเสียงเลือกตั้ง
กระทั่ง “บิ๊กแดง”ต้องออกโรงตอบโต้เป็นระลอกที่ 2 ต่อจากเรื่องปฏิวัติรัฐประหาร โดยครั้งนี้ บอกใบ้กระทบกระทั่งให้ไปฟังเพลง “หนักแผ่นดิน” อันเป็นเพลงปลุกใจคนไทยให้รักชาติเมื่อหลายสิบปีก่อน สมัยประเทศถูกแทรกซึมโดยคอมมิวนิสต์
นับเป็นการโหมโรงในช่วงนับถอยหลังสู่การเลือกตั้ง 24 มีนาคม อย่างเด่นชัด และเป็นสัญญาณสะท้อนในทีว่า จะไม่ลดราวาศอกหรือนิ่งเฉยให้ขั้วพรรคเพื่อไทย นำไปใช้โจมตีเรียกคะแนนนิยมในการหาเสียงเลือกตั้งอีกต่อไป
หลังจากเคยเตือน “อย่าล้ำเส้น”มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้ผลนัก
เพราะนัยการพาดพิงและพุ่งเป้าใส่กองทัพ พอจะประเมินกันได้ว่า จะไม่หยุดยั้งเพียงแค่นี้ แต่จะมีขยายผลต่อยอดตามมาอีกหลายระลอก รวมทั้ง “ตัวบุคคล” ซึ่งมีแนวโน้มสูงจะกลายเป็น “เป้าสำคัญ”ในลำดับถัดๆไป
รวมทั้งเรื่องนาฬิกาและแหวนเพชร ที่แม้ปปช.จะสรุปผลไปแล้ว แต่สามารถกระตุ้นและปลุกปั่นอารมณ์คนที่ยังค้างคาใจ และไม่ยอมรับในผลวินิจฉัยของปปช.
สงครามยังไม่จบ...ห้ามนับศพทหารโดยเด็ดขาด
