โผทหาร 61 ตท. 18 , ตท. 20 น่าจะผงาดตามคาด

ใกล้เดือนกันยายน ใกล้ช่วงฤดูโยกย้าย โผโน่น โผนี่ ก็ทะยอยโผล่ออกมาเป็นระยะๆ ล่าสุดโผโยกย้ายนายทหารระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพโผแรกก็หลุดออกมาปรากฏบนหน้าสื่อ ว่ากันว่า หลุดก่อนจะมีการประชุมสภากลาโหม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 กรกฏาคมเสียอีก

การโยกย้ายผบ.เหล่าทัพปีนี้น่าสนใจ เพราะเกษียณครบถ้วนทุกกองทัพ เหลือเพียงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนเดียวเท่านั้น เพราะอายุยังน้อยกว่าใคร และเป็นเตรียมทหารรุ่น 20 ที่ขึ้นมาเป็นผู้นำหน่วยก่อนเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นๆหลายปี

ไล่เรียงมาตั้งแต่ ปลัดกระทรวงกลาโหม “บิ๊กเข้” พลเอกเทพพงศ์ ทิพย์จันทร์ , ผู้บัญชาการกองทัพไทย “บิ๊กต๊อก” พลเอกธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ , “บิ๊กเจี้ยบ” ผู้บัญชาการทหารบก พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสารท , “บิ๊กนุ้ย” พลเรือเอกนริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ ,บิ๊กจอม” พลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ยันไปถึงแม่ทัพภาค 4 และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสำคัญๆอีกหลายหน่วย

บัญชีโยกย้ายนายทหารระดับนายพลปีนี้ จึงเป็นปีที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษจริงๆ เพราะเมื่อระดับผบ.เหล่าทัพขยับ ระดับรองๆลงมาก็ต้องขยับตามกันทั้งหมด

โดยโผปีนี้เป็นการแบ่งเค๊กกันระหว่าง ตท.18 กับ ตท.20 ที่ผงาดขึ้นมาทั้ง 2 รุ่น รุ่น 18 ยึดครองกองบัญชาการกองทัพไทย ,กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ  กองบัญชาการกองทัพไทยมีชื่อ พลเอกพรพิพัฒน์ เบญศรี (ตท.18) เป็นเต็งหนึ่ง ตามไลน์ที่พลเอกธารไชยยันต์วางตัวไว้  กองทัพเรือ เป็น “บิ๊กลือ” พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ (ตท.18) ที่อกหักจากปีที่ผ่านมา ขยับจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารเรือ ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ส่วนกองทัพอากาศ พลอากาศเอกชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ตท.18 อีกคนหนึ่ง ขยับจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ

ส่วนรุ่น 20 ตามโผจะยึดกลาโหม ,กองทัพบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ “บิ๊กแป๊ะ” พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ขึ้นนำไปก่อนแล้ว  กระทรวงกลาโหม “ณัฐอูซี่” พลเอกณัฐ อินทรเจริญ รองปลัดกลาโหม (ตท.20) น้องรัก “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นเต็งหนึ่งที่จะขึ้นเป็นปลัดกลาโหมรอบนี้ ในโควตาของ “บูรพาพยัคฆ์” จากเดิมที่อาจจะให้รอไปก่อน เพื่อให้รุ่นพี่ที่อาวุโสกว่าขึ้นมาครองตำแหน่งก่อนหนึ่งปี แต่ความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งในปีหน้า ทำให้พลเอกณัฐ จะขยับขึ้นเป็นหัวแถวของกองทัพในตำแหน่งปลัดกลาโหมในปีนี้เลย

ส่วนกองทัพบก “บิ๊กแดง” พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ แกนนำรุ่น 20 จะพาเหรดนำรุ่น 20 ขึ้นตำแหน่งสำคัญในกองทัพบก ทั้ง 5 เสือทบ. และแม่ทัพภาค  โดยตามโผ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ตท. 20 จะขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก และจะเป็นผู้บัญชาการทหารบกคนแรก ที่ดำรงตำแหน่งนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์

“ตู่น้อย” พลโทกู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 จะขยับเข้า 5 เสือทบ.ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก แต่แม้จะเป็น ตท. 20 รุ่นเดียวกับบิ๊กแดง แต่พลโทกู้เกียรติ ถือว่า เข้ามาในโควตาบูรพาพยัคฆ์

ส่วนตท. 20 อีกคนที่อยู่ใน 5 เสือทบ. คือ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก ที่มีชื่อจะขยับขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการทหารบกในเดือนตุลานี้นั้น หลายฝ่ายเชื่อว่า จะยังคงอยู่ในตำแหน่งเสนาธิการทหารบกเช่นเดิม เพราะหากพลเอกอภิรัชต์เป็นผู้บัญชาการทหารบก แน่นอนว่า ตำแหน่งเสนาธิการทหารบกจะต้องเป็นคนที่พลเอกอภิรัชต์ไว้ใจและเชื่อมือมากที่สุด

เพราะสไตล์ “บิ๊กแดง” จะใช้เสนาธิการทำงานประจำแทนผู้บัญชาการทั้งหมด เพราะสไตล์นี้เป็นสไตล์ที่ “บิ๊กแดง” ใช้มาตั้งแต่ช่วงที่เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ หรือกระทั่งครั้งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 ,ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และแม่ทัพภาคที่ 1 ตำแหน่งเสธฯกรม ,เสธฯกองพลและเสธฯทัพภาค ต้องเป็นคนที่สามารถดูแลงานประจำให้กับพลเอกอภิรัชต์ได้ทั้งหมด

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นต้องดูว่า “บิ๊กอ้อม” พลเอกวีระชัย อินทุโศภณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ตท. 18 จะได้ขยับขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก หรือขยับออกนอกกองทัพ เพราะเมื่อ พลโทกู้เกียรติ ขยับเข้ามาใช้โควตาบูรพาพยัคฆ์ใน 5 เสือทบ.แล้ว “บิ๊กอ้อม”ซึ่งถือว่า เป็นโควตาของบูรพาพยัคฆ์เช่นกัน จะยังคงอยู่ใน 5 เสือหรือไม่

โดยเฉพาะเมื่อล่าสุด มีรายชื่อ พลโทธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก ตท. 19 และพลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ตท. 18 ขยับเข้าไลน์มาเป็น 1 ใน 5 เสือทบ.เช่นกัน โดยพลโทธีรวัฒน์ ในโผจะเข้ามาในตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ส่วนพลโทวิจักขฐ์ มีชื่อเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

แต่ข่าวหลายกระแสเชื่อว่า พลเอกวีระชัย น่าจะขยับออกนอกทบ.มากกว่า เพราะเป็นรุ่นพี่ “บิ๊กแดง” ถึง 2 รุ่น โดยอาจไปรับตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม หรือขึ้นเป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบกที่เป็นตำแหน่งเฉพาะตัวมากกว่า

ส่วนตำแหน่งแม่ทัพภาคที่จะว่างถึง 3 ตำแหน่ง กรณีพลโทกู้เกียรติ แม่ทัพภาคที่ 1,พลโทวิจักขฐ์ แม่ทัพภาคที่ 3 ขยับขึ้นมาในตำแหน่ง 5 เสือทบ. และ พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เกษียณอายุราชการนั้น ตามโผเป็นตท. 20 ที่จะตบเท้าเข้ามา 2 คน คือ พลตรีฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 หนึ่งในทีมกู้หมูป่า จะขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 และ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ “บิ๊กเดฟ” แม่ทัพน้อยที่ 4 จะขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 4

ขณะที่กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นกองกำลังสำคัญในกรุงเทพมหานคร และต้องรับผิดชอบภารกิจสำคัญๆ และงานพระราชพิธีใหญ่ๆนั้น พลตรีณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ตท. 22 รองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่เพิ่งขยับขึ้นมาจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ จะก้าวขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อรับผิดชอบพื้นที่สำคัญและงานสำคัญเต็มตัว

หากโผเป็นไปตามนี้ ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ให้ต้องแหวก เพราะเป็นไปตามครรลอง และสถานการณ์ที่ควรเป็น

แต่หากโผออกมาผิดจากนี้.....(วงเล็บไว้ว่า....) ตัวใคร ตัวมันครับ!!!!!