"ฟ้า" จ่อถอนฟ้อง ตำรวจทั้งหมด เว้น "อัจฉริยะ" คู่ความรายเดียว

วันนี้( 4 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่บก.ปอท. น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ ฟ้า เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กฤต เสนีวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผกก.กก.3 บก.ปอท. และ ร.ต.อ.สมบัติ สมบัติโยธา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. โดยในเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

หลังเข้าพบ ฟ้า กนกพรรณ เปิดเผยว่า วันนี้มาติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.เพื่อติดตามคดีที่ตนแจ้งความดำเนิน เพจ "มิติใหม่การเมือง" เมื่อ 19 พ.ค.2560 ที่โพสต์หมิ่นประมาทตนไว้ เมื่อกลางปี 60 ซึ่งได้รับแจ้งว่า เป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.เมือง สระบุรี และ สน.มีนบุรี ได้ดำเนินการส่งคดีดังกล่าวให้กลับคืนท้องที่ไปดำเนินคดีต่อแล้ว

และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.ได้แจ้งให้ตนตกเป็นผู้ต้องหาคดีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ แจ้งความเมื่อ 15 มี.ค.เอาผิดตนกับ นางปรวิสา รุ่งเรืองวิโรจน์ ข้อหานำเข้าข้อมูลลามกอนาจาร เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ตาม พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14(4)

ที่ตนทั้ง 2 คน ทำการถ่ายทอดสด หรือไฟล์สดทางโซเชียลช่องยูทูป https://youtu.be/TsW-bWVvXVo และมีการนำภาพหรือคลิปโป๊ ผู้หญิงคนอื่นมาเปิดให้ดูตอนไลฟ์สดด้วย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2561 จนศาลออกหมายจับและถูกจับกุมดำเนินคดีในเวลาต่อมานั้น ทางอัยการได้สั่งให้พนักงานสอบสวนสอบสอบเพิ่มเติมบางประเด็น อัยการบอกว่ายังไม่ค่อยรัดกุม ซึ่งตนทราบรายละเอียดแล้วก็ไม่รู้สึกหนักใจอะไร

สำหรับ คดีที่ตนไปยื่นฟ้องศาลอาญาทุจริต ประพฤติมิชอบกลาง ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรวม 17 นาย นั้น ตนได้ไปยื่นถอนฟ้อง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ และ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนที่เหลืออีก 15 นาย ตนจะไปยื่นขอถอนฟ้องในวันจันทร์ที่ 7 พ.ค. เวลา 11.00 น.

ฟ้า กนกวรรณ กล่าวต่อ หลังจากตนไปบวชกลับมาก็ได้มาคิดทบทวนดูแล้วเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามหน้าที่ เราก็เลยจะไปถอนฟ้องศาลอาญาทุจริต ประพฤติมิชอบกลาง จะดำเนินเฉพาะคู่ความรายเดียว (นายอัจฉริยะ)

วันก่อนตนนำกระเช้ากับพวงมาลัยไปติดต่อขอพบท่านฐิติราชฯ เพื่อจะขอขมาแต่ท่านติดเข้าเวร จึงยังไม่ได้พบ จะหาโอกาสไปใหม่อีกที ได้รับทราบจากสื่อฯ ที่ท่านฝากมาให้กำลังใจตน บอกให้อดทนและ สู้ๆ นะ พร้อมกับอนุโมทนาบุญที่ตนได้ไปบวชด้วย

ช่วงที่ผ่านมาตนพยายามเคลียร์คดีความต่างๆ ที่มีแจ้งกันไปมาเยอะแยะไปหมด ได้ไปที่ศาลแล้วมาที่ ปอท. อีกเรื่องคือกรณีที่ทีคลิปเสียงหลุดออกมาแล้วมีคนพยายามใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ ตนเชื่อว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ปอท.แน่นอน ทเพราะคลิปเสียงเหล่านั้นมันเป็นคลิปเสียงทางไลน์ ซึ่งคลิปเสียงในเครื่องที่ถูกตำรวจดูดข้อมูลไว้จะเป็นเฉพาะเบอร์โทรเท่านั้น คลืปเสียงเหล่านั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปล่อยหลุดออกมาจาก ปอท. ตนไปคิดทบทวนดูแล้วเจ้าหน้าที่จะเป็นแพะซะมากกว่า จึงตั้งใจจะไปถอนฟ้องให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมด เอาแค่คู่ความเท่านั้น

หลังจากบวชกลับมาก็ไม่ได้ติดต่อกับใครทั้งสิ้น ต้องการอยู่คนเดียว ตัดปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด หยุดและเลิกไปเลย ตอนนี้จะทำอะไรก็ทำคนเดียว จะได้ไม่ไปพ่วงให้คนอื่นเขาเสียหาย ที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำแต่มีคนชงมีคนเชื่อมให้ดูเหมือนเราเป็นตัวต้นเหตุให้คนรอบๆ ข้างเราเสียหายไปหมด พอตนสึกออกมาก็เลยเลิกยุติทั้งหมด