อดีตรองผู้กำการตำรวจสันติบาล ออกมาตอบโต้กรณี รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่าตนเองให้ข่าวบิดเบือนและไม่รู้จัก ผบ.ตร.เป็นการส่วนตัว พร้อมเดินตลาดขอโทษผู้ค้าที่ทำให้เสียรายได้
พันตำรวจโทสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล ในฐานะประธานที่ปรึกษา บริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้กรณีถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการเก็บค่าคุ้มครองว่า ไม่มีการเรียกเก็บส่วยหรือค่าคุ้มครองจากผู้ค้าในตลาด แต่อ้างว่า เป็นการเก็บค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆของโครงการ เพื่อการพัฒนาตลาด ซึ่งได้นำใบเสร็จมาโชว์ให้กับสื่อมวลชนได้ดู โดยในใบเสร็จจะมีการระบุ ชื่อ อาคาร หมายเลขโทรศัพท์ และจำนวนเงิน รวมทั้งลายเซ็น เพื่อยืนยันว่า ผู้ค้ายินยอมจ่ายจริง
โดย พ.ต.ท.สันธนะ บอกอีกว่า ผู้ค้าจะจ่ายขั้นต่ำ 500 บาท บางร้านก็ 1,000 หรือ 1,500 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นเหมือนค่าใช้จ่ายส่วนกลางของตลาด ทั้งค่าทำความสะอาด ค่าโบกรถ การจราจร ค่ารปภ.ดูแลความปลอดภัยในช่วงกลางคืน ซึ่งจะมีการเก็บทุกสิ้นเดือน เฉลี่ยเดือนละ 5 หมื่นถึง 1 แสนบาท มีพนักงานของตลาดเป็นคนเก็บเงิน และไม่มีการบังคับให้จ่าย และไม่ได้จ่ายทุกร้าน และร้านที่ไม่จ่ายก็สามารถเปิดขายของในตลาดได้ตามปกติ สำหรับเงินที่ได้จากการเก็บค่าส่วนกลาง จะนำเงินมาบริหารจัดการตลาดให้เพียงพอ แต่หากมีเงินเหลือก็จะให้คนเก็บเงินนำไปแบ่งกัน ซึ่งตนเองให้นโยบายการบริหารจัดการตลาดไว้ว่าต้องอยู่กันให้ได้ และทุกอย่างนำเข้าระบบอย่างถูกต้อง แต่ไม่ทราบว่ามีกี่คนที่เก็บเงินนี้ ทั้งนี้ พ.ต.ท.สันธนะ ยืนยันหนักแน่น ว่า ไม่ได้เก็บส่วยในตลาดใหม่ดอนเมืองแห่งนี้ และไม่ใช่มาเฟียหรือผู้มีอิทธิพล ขออย่ายัดเยียดสิ่งเหล่านี้ให้กับตนเอง
พร้อมเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเอง กับพลตำรวจเอกจักรทิพย์ โดยท้าให้เอาตำแหน่ง ผบ.ตร.มาเดิมพัน และบอกสื่อมวลชนให้ไปถาม พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ว่าเป็นสัญญาใจหรือเปล่าที่โทรศัพท์มาคุยกับตนเมื่อปี 2558 ก่อนจะมีการประชุม วาระเลือกการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหลังได้รับตำแหน่ง ตนเองยังเข้าไปพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่ห้องทำงานด้วย ยืนยันว่า การออกมาพูดในวันนี้ ไม่ได้เป็นการทวงบุญคุณ จากพลตำรวจเอกจักรทิพย์ที่ได้ตำแหน่งไป และจำได้ทุกคำพูดในครั้งนั้น ถ้าพูดต่อหน้าสื่อมวลชนแล้วไม่ใช่เรื่องจริงให้มาเอาผิดตนเองได้เลย ทั้งนี้ พ.ต.ท.สันธนะ ได้เสนอทางออกให้ด้วย โดยบอกว่า แค่ พล.ต.อ.จักรทิพย์โทรมาคุยกัน แล้วบอกว่า รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พูดไปโดยไม่รู้ความจริง เท่านั้น ส่วนจะนัดเคลียร์ใจกันส่วนตัวหรือไม่ ต้องแล้วแต่ ผบ.ตร. พร้อมฝากบอก ผบ.ตร. ด้วยว่า “รักนะ” และการออกมาพูดครั้งนี้ไม่ได้ต้องการแบล็กเมล หรือหักหลังใคร