svasdssvasds

รวบ นทท.ญี่ปุ่นขนอาวุธสงครามกลับประเทศ

รวบ นทท.ญี่ปุ่นขนอาวุธสงครามกลับประเทศ

ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมชาวญี่ปุ่นขนอาวุธสงครามจากเวียดนามผ่านสนามบินดอนเมืองเตรียมกลับประเทศ อ้างนำไปเก็บสะสม

ขนอาวุธสงครามจากเวียดนามผ่านสนามบินดอนเมือง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการจับกุมตัว Mr.Hirano takeru ชาวญี่ปุ่นลูกครึ่งอเมริกา อายุ 27 ปี อาชีพวิศวกรอยู่ชมรมสะสมอาวุธ ในข้อหา “มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครอง , พายุทธภัณฑ์หรือวัตถุอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานหรือบุคคลไปกับอากาศยาน,นำเข้ายุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมของกลาง ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (ไม่มีดิน) M18A1 จำนวน 1 ทุ่น ตัวจุดระเบิด M57 จำนวน 1 ชิ้น EA แม็กกาซีน ขนาด 5.56 มม. (ยาว) จำนวน 1 แม็ก แม็กกาซีน ขนาด 5.56 มม (สั้น) จำนวน 13 แม็ก แม็กกาซีน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 8 แม็ก แม็กกาซีนขนาด.05 นิ้ว จำนวน 1 แม็ก

รวบ นทท.ญี่ปุ่นขนอาวุธสงครามกลับประเทศ

 โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า Mr.Hirano กำลังจะเดินทางกลับไปยังประเทศญี่ปุ่นโดยสายการบินแอร์เอเชีย แต่เมื่อถึงจุดเอ็กซเรย์ทางเจ้าหน้าที่พบอาวุธยุทธภัณฑ์เป็นจำนวนมากจึงได้ทำการควบคุมตัวไว้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาในการว่าได้มีการซื้ออาวุธดังกล่าวที่เมืองโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม ซึ่งอาวุธดังกล่าวไม่สามารถใช้การได้ เหตุที่ตัดสินใจซื้อยุทธภัณฑ์ดังกล่าวเพราะเห็นว่ามีลวดลายที่สวยซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นจึงเดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยก่อนขึ้นเครื่องได้สอบถามไปยังสายการบินที่เมืองโฮจิมินท์แล้วทางสายการบินแจ้งว่า สามารถนำชิ้นส่วน ซองอาวุธเหล่านี้ขึ้นเครื่องได้จึงได้นำขึ้นเครื่องเข้ามายังประเทศไทยโดยนั่งเครื่องมาลงที่ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 25เมษายน 2561 และท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย จนถึงวันนี้ครบกำหนดเดินทางกลับ จึงได้นำชิ้นส่วนซองกระสุนเหล่านี้ กลับไปเป็นที่ระลึกที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยแต่มาถูกจับเสียก่อน

รวบ นทท.ญี่ปุ่นขนอาวุธสงครามกลับประเทศ

 จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ EOD แจ้งว่าเป็น ชิ้นส่วน ประกอบกับระเบิด แบบ เครโม ที่ไม่มีดินระเบิดและเชื้อปะทุ ซองบรรจุกระสุน ไม่สามารถใช้งานได้ และไม่มีอันตราย และจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีการเดินทางเข้าออกประเทศไทยจำนวน 3 ครั้ง พล.ต.ต.สรุเชษฐ์ ยืนยันกรณีดังกล่าวไม่ใช่การก่อการร้าย ไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศแต่กลับสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องการดูแลความปลอดภัยมากขึ้น

 

related