svasdssvasds

ล่าสาว 20 ใช้โซเชียลฯ ตั้งวงแชร์ลูกโซ่หลอกผู้เสียหายนับ 10

ล่าสาว 20 ใช้โซเชียลฯ ตั้งวงแชร์ลูกโซ่หลอกผู้เสียหายนับ 10

สาวอายุ 20 ใช้โซเชียลฯ ตั้งวงแชร์ลูกโซ่อาละวาดหลอกผู้เสียหายนับ 10 รายสูญกว่า 6 ล้านบาท

วันนี้(13 พ.ค.) นายวรพงษ์ วงษ์วรเทวา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/10 ซอยพุทธบูชา 36 แยก 1 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม.พร้อมผู้เสียหายชายและหญิง รวม 10 ราย เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.บุญฤทธิ์ ติดตามรัมย์ สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน ให้ดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชน กับ น.ส.บุษยา ชัยมั่นคง อายุ 20 ปี หลังใช้สื่อโซเชียลมีเดียทั้งไลน์และเฟซบุ๊กตั้งวงแชร์ลูกโซ่หลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนแล้วถูกเชิดเงินขณะนี้มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 6,000,000 บาท

ล่าสาว 20 ใช้โซเชียลฯ ตั้งวงแชร์ลูกโซ่หลอกผู้เสียหายนับ 10

นายวรพงษ์ ให้การว่า ตนมีอาชีพค้าเสื้อผ้าทางเฟซบุ๊ก ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย.61 รู้จักกับ น.ส.บุษยา ผ่านการแนะนำของญาติ ซึ่ง น.ส.บุษยา นั้นได้ตั้งกลุ่มไลน์ชื่อ “กลุ่มกินดอกแชร์บ้านหญิง” และใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บุษยา ชัยมั่นคง” เพื่อโพสต์ข้อความเชิญชวนให้บุคคลมาร่วมลงทุน โดยทีแรกนั้นมีการเสนอให้โอนเงินอย่างต่ำ จำนวน 10,000 บาท จากนั้นอีก 5 วัน น.ส.บุษยา จะโอนคืนกลับมาให้พร้อมดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 10,800 บาท ตนเห็นว่าเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนง่ายดี จึงโอนไป 3 งวด ได้ผลตอบแทนกลับมาตามสัญญา จากนั้นเมื่อช่วงกลางเดือน เม.ย.ตนจึงตัดสินใจลงทุนก้อนใหญ่ โดยโอนเงินให้ น.ส.บุษยา ไปอีกหลายงวด ยอดรวมจำนวน 392,000 บาท แต่กลับไม่ได้รับผลตอบแทนกลับมา เงินสูญหายไปทั้งต้นและดอก อีกทั้งทราบว่า มีผู้เสียหายย่านฝั่งธนบุรี ถูกหลอกเช่นเดียวกันกับตนจึงรวมตัวกันมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในวันนี้

ล่าสาว 20 ใช้โซเชียลฯ ตั้งวงแชร์ลูกโซ่หลอกผู้เสียหายนับ 10

ด้าน น.ส.อัญชนา จิวมณีษิณ อายุ 24 ปี อาชีพค้าขายกาแฟ 1 กล่าวว่า ตนรู้จักกับ น.ส.บุษยา เนื่องจากเจ้าตัวแอดเฟซบุ๊กมาชักชวนตนร่วมลงทุน ทีแรกเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ตนหลงเชื่อโอนเงินให้ไป 10,000 บาท พอครบ 7 วัน ก็ได้กลับคืนมา 12,000 บาท จากนั้นตนก็ทยอยลงทุนคราวละน้อยๆ งวดละ 4,000-10,000 บาท ก็ได้รับเงินตอบแทนคืนมาทั้งต้นและดอกทุกครั้ง กระทั่งเมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ตนโอนเงินให้ น.ส.บุษยา ไปอีกหลายงวด รวมทั้งสิ้น 49,000 บาท แต่กลับไม่ได้เงินคืน พอทวงถาม น.ส.บุษยา ไปก็ทราบเหตุผลว่า ช่วงนี้มีปัญหาถูกโต๊ะแชร์ใหญ่โกงเงินไปเช่นกันจึงไม่มีเงินต้นและดอกเบี้ยคืนให้สมาชิก ตนกับเพื่อนๆ ที่เป็นผู้เสียหายจึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากกองปราบปราม จึงทราบข้อมูลว่า น.ส.บุษยา เคยต้องโทษคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และทางกองปราบปราม แนะนำว่า ควรรวมตัวกันเดินทางมาแจ้งความที่โรงพักที่เกิดเหตุก่อนจากนั้นให้รวบรวมสำนวนไปที่กองปราบปรามอีกครั้ง

ขณะที่ พ.ต.ต.บุญฤทธิ์ กล่าวว่า การรวมตัวของผู้เสียหายในวันนี้พบว่ามีประมาณ 10 ราย บางรายมีเอกสารพร้อมดำเนินการแจ้งความ ส่วนบางรายยังขาดเอกสารบางประการอยู่ แต่ในเบื้องต้นพบว่าความผิดของ น.ส.บุษยา นั้น เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากมีการโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียให้ผู้อื่นหลงเชื่อหลายราย จึงทำการแยกสอบปากคำผู้เสียหายแต่ละรายเอาไว้ และนัดหมายผู้เสียหายทั้งหมดมาพบอีกครั้งเพื่อนำหลักฐานเพิ่มเติมมามอบให้ก่อนดำเนินการตามกฎหมายกับ น.ส.บุษยา ต่อไป.

related