svasdssvasds

"สันธนะ" เมินนัดตำรวจดอนเมือง ยันไม่เคยหลบหนี ชี้รายงานพนักงานสอบสวนเป็นเท็จ [คลิป]

"สันธนะ" เมินนัดตำรวจดอนเมือง ยันไม่เคยหลบหนี ชี้รายงานพนักงานสอบสวนเป็นเท็จ [คลิป]

"สันธนะ" ไปศาลเพื่อสืบพยานคดี ร่วมกับกลุ่มพันธมิตร ปิดสนามบิน ยืนยันไม่เคยหลบชี้รายงานพนักงานสอบสวนที่ยื่นต่อศาลเป็นเท็จ พร้อมเมินนัดพนักงานสอบสวน

พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับสันติบาล เดินทางมาศาล อาญาถนนรัชดาภิเษก ลนัดสืบพยานโจทก์คดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในข้อหาก่อการร้ายและข้อหาอื่นๆ กรณีชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง เมื่อปี 2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม. และแนวร่วมเป็นจำเลยรวม 98 ราย แต่ศาลเลื่อนนัดออกไปเป็นวันที่ 2 พฤศจิกายน เนื่องจากหนึ่งในจำเลยป่วย

"สันธนะ" เมินนัดตำรวจดอนเมือง ยันไม่เคยหลบหนี ชี้รายงานพนักงานสอบสวนเป็นเท็จ [คลิป]

หลังจากนั้น พ.ต.ท.สันธนะ ได้กล่าวถึง การที่พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้ออกหมายเรียกตนให้ไปรับข้อกล่าวหาเพิ่มเติม แต่ในวันนี้ศาลได้นัดพิจารณาคดี ซึ่งนัดไว้ล่วงหน้านานแล้ว ตนเห็นว่าครั้งนี้เป็นกระบวนการศาลยุติธรรม ดังนั้นการนัดหมายของพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง คงไม่มีเหตุจำเป็นพอ และอยากจะฝากไปถึงหัวหน้าตลกกับคณะ ว่าตนก็เคยเรียนหลักการรบ ในเมื่อคุณรุก ตนก็จะตั้งรับ แต่ถ้าพวกคุณยังไม่ถอย ตนจะดำเนินการ เพราะการที่ออกหมายจับตนเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 61นั้น ซึ่งหลังจากนั้นไม่ไม่ถึงชั่วโมงก็ออกหมายค้น โดยให้เหตุผลกับศาลว่าตนมีพฤกติการณ์หลบหนี

"สันธนะ" เมินนัดตำรวจดอนเมือง ยันไม่เคยหลบหนี ชี้รายงานพนักงานสอบสวนเป็นเท็จ [คลิป]

ซึ่งวันนี้ตนพิสูจน์ได้แล้วว่าการที่เจ้าหน้าที่รายงานต่อศาลนั้น เป็นการให้ข้อมูลเท็จ เพราะตนมีคดีเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่จะต้องขึ้นศาลเพื่อดำเนินการ ซึ่งตนตกเป็นจำเลย โดยศาลระบุว่าห้ามออกนอกประเทศ และที่ผ่านมาตนไม่เคยมีพฤกติการหลบหนี เมื่อตนเดินทางออกนอกประเทศก็มาขออนุญาตศาลทุกครั้ง และตนเดินทางออกนอกประเทศกว่า 100 ครั้ง และก็เดินทางกลับมาตามคำสั่งศาลโดยตลอด เพราะฉะนั้นทำไมตนถึงถูกแจ้งข้อหาทั้ง 18 ข้อหา ทั้งๆที่คดีนี้มีจำเลย 98 คน มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่โดน 18 ข้อหา ซึ่งมีอัตราโทษประหารชีวิต และถ้าตนคิดจะหนี คงหนีไปนานแล้ว จึงอยากจะบอกว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องพิจารณาด้วยว่า การจะปฏิบัติงานมีความรุนแรงกับเป้าหมาย หรือผู้ต้องหาเกินไปหรือไม่

related