ราชทัณฑ์เผยนักโทษประหารปี 61 สูง 520 ราย

สถิตินักโทษประหาร

ข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์ สรุปสถิตินักโทษประหารชีวิตล่าสุด จนถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2561 มีนักโทษประหารรวม 520 ราย เป็นนักโทษในคดียาเสพติดที่อยู่ระหว่างอุทธรณ์ - ฎีกา ชาย 135 ราย หญิง 76 ราย อยู่ในชั้นนักโทษเด็ดขาด ชาย 67 ราย หญิง 14 ราย คดีทั่วไป อย่างฆ่าคนตาย อยู่ระหว่างอุทธรณ์ - ฎีกา ชาย 110 ราย หญิง 4 ราย อยู่ในชั้นนักโทษเด็ดขาดเป็นชาย 109 ราย หญิง 5 ราย

 ส่วนการประหารชีวิตนับแต่ปี 2478 ถึงปัจจุบัน มีการบังคับโทษประหารแล้ว 325 ราย เป็นการยิงเป้า 319 ราย รายสุดท้ายเมื่อ 11 ธันวาคม 2545 จากนั้นเริ่มการประหารด้วยวิธีการฉีดยา 4 ราย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2546 ทั้งหมดเป็นชาย จากคดียาเสพติด 3 ราย และความผิดต่อชีวิต 1 ราย ครั้งล่าสุดกับการประหารเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2552 เป็นนักโทษเด็ดขาดคดียาเสพติด 2 ราย จากนั้นไม่เคยมีการประหารชีวิตจริงเกิดขึ้นในประเทศไทยยาวนานเกือบ 9 ปี กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีการประหารนักโทษเด็ดขาดชายอีกครั้ง ในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์ ด้วยวิธีการฉีดยาที่เรือนจำกลางบางขวาง

 ตามขั้นตอนโดยกรมราชทัณฑ์จะต้องส่งฎีกาไปยัง กระทรวงยุติธรรม จากนั้นส่งต่อคณะรัฐมนตรี ก่อนที่เรื่องจะถูกส่งไปยังสำนักราชเลขาธิการ เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และหากมีพระบรมราชวินิจฉัยให้ยกฎีกา กรมราชทัณฑ์ก็ต้องบังคับโทษประหารชีวิตแก่นักโทษรายนั้นทันที ซึ่งทุกอย่างมีขั้นตอนระเบียบปฏิบัติ

 สำหรับการประหารชีวิตนักโทษคดีเสร็จเด็ดขาด ปัจจุบันราชทัณฑ์ใช้วิธีการฉีดยาสารพิษ 3 ชนิด คือกลุ่มยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ และยาหยุดการเต้นของหัวใจ ทุกกระบวนการขั้นตอนจะทำต่อหน้าคณะกรรมการและสักขีพยาน สุดท้ายคือยืนยันการเสียชีวิตด้วยแพทย์ ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ที่รับมอบหมายเป็นเพชฌฆาต ทุกคนถือว่าเป็นการทำตามหน้าที่ จะไม่ใส่ความรู้สึก ความเห็นใจ หรือแสดงความเสียใจ เพราะจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของตัวเพชฌฆาตเอง