หนุ่มดีเลย์ ขายโทรศัพท์ ยอมรับแอบสวมบัตรประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อนำไปลงทะเบียนซิม ผ่านระบบ แอพพลิเคชั่นของ กสทช. ก่อนนำไปขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง โทรศัพทย์มือถือ ซิมการ์ดโทรศัพท์ 29 ซิม และเราท์เตอร์พร้อมอุปกรณ์ คือของกลางที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ยึดได้จาก นายพีระเมศร์ วงศ์ทองเกื้อ ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์รายหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้าใน อ.พัทยา จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการ ปอท. กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์รายหนึ่ง พบความผิดปกติในการลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ เมื่อช่วงเดือน มีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม 61 โดยเป็นการใช้รูปภาพของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กว่า 55 หมายเลข จึงแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ก่อนประสานไปยัง กสทช. นายพีระเมศร์ ใช้โทรศัพท์มือถือ ในร้านเป็นอุปกรณ์ลงทะเบียนซิม กว่า 53 หมายเลข ตำรวจจึงขอศาลออกหมายจับและเข้าจับกุมตัวเมื่อวาน (11 ก.ค.) ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนนายพีระเมศร์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงทะเบียนซิมโทรศัพท์จำนวน 55 หมายเลข และยังใช้ข้อมูลของบุคคลของตัวแทนรายอื่นอีกในการลงทะเบียน ส่วนที่นำภาพนายกรัฐมนตรี เพราะเคยใช้รูปลูกค้าในการลงทะเบียนซิมหลายครั้งแต่ไม่สามารถทำได้ จึงทดลองใช้รูปคนดังในการลงทะเบียน ซึ่งขั้นตอนจะไปหารูปนายกรัฐมนตรีจากอินเตอร์เน็ต จากนั้นก็จะนำรูปและบัตรที่หาได้ไปลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่นของ กสทช. โดยจะสุ่มกรอกเลขที่บัตรประชาชน 13หลักจนกว่าระบบจะยอมรับ หรือ สุ่มเลขหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวเพื่อลงทะเบียน และเมื่อลงทะเบียนแล้วเสร็จจะนำไปจำหน่ายให้กับชาวต่างชาติ ในราคาซิมละ 250 บาท ตำรวจแจ้งข้อหา ฐานเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ และความผิดทางอาญา
โดยผู้ต้องหารายนี้จะต้องรับโทษต่างกรรมต่างวาระกระทง 5ปี ซึ่งอาจจะถูกจำคุกสูงสุดถึง 275 ปี
พลตำรวจตรีวรวัฒน์ ระบุด้วยว่า การตรวจสอบจากทาง กสทช. และเจ้าของเครือข่าย ยังไม่พบว่าผู้ต้องหามีการนำซิมการ์ดดังกล่าวไปใช้ก่อการร้ายหรือหวังผลทางการเมือง และนายกรัฐมนตรีบยังกำชับให้ดำเนินเด็ดขาดกับผู้ต้องหารายดังกล่าว และเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
ด้าน นางจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ผู้อำนวยการสำนักบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม ( กสทช.) ยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากแอพลิเคชั่นของ กสทช.ที่เพิ่งถูกนำมาใช้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงเทคโลยี แต่หลังจากนี้ก็จะต้องมีการประชุมกับตัวแทนเครือข่าย และตัวแทนจัดจัดหน่าย เพื่อแก้ไขปัญหาอีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่รอดมือ....! ตำรวจสอบสวนกลาง รวบหนุ่มปลอมบัตรประชาชน "บิ๊กตู่" ลงทะเบียนซิมโทรศัพท์